พระเจ้าคุยเรื่องSexyที่นี้เท่านั้น

Jesus and Homosexual

มาเข้าใจคำสั่งของพระเจ้าคืออะไร?

ก่อนอื่นต้องบอกว่า คุณต้องเข้าใจคำสั่งที่ว่า "จงรักเพื่อนบ้านเหมือนกับรักตนเอง" ซึ่งเป็นหน้าที่และความรักของคริสติชนทุกคนต้องปฎิบัติต่อคนอื่น และ"จงรักพระเจ้าสุดจิตสุดกำลังสุดชีวิต" เราออกตัวไว้ก่อนว่าไม่มีความรู้ ไม่เคยอบรม และเป็นผู้ที่เชียวชาญหรือผู้รับใช้พระเจ้า ที่มีใจภาระเลี้ยงดูจิตวิญญาณของชาวรักร่วมเพศเลย ไม่มีความรู้จริงๆแต่ถึงกระนั้นเราไม่อยากเอาความคิดติดตัวเอง หรือข้อมูลไม่ชัดเจนมานำเสนอในหน้าเว็บ เนื้อหาด้านล่างเราคัดและแปลบทความ หรือถอดจากคำเทศนาในต่างประเทศของบาดหลวง ผู้รับใช้พระเจ้าที่คลกุคลีดูแลจิตวิญญาณของชาวHomo

คำสั่งที่ว่า "จงรักเพื่อนบ้านเหมือนกับรักตนเอง" ซึ่งเป็นหน้าที่และความรักของคริสติชนทุกคนต้องปฎิบัติต่อกันในที่นี้รวมถึงชาวเพศที่3 เพราะฉนั้นคริสเตียนที่ดีจะไม่มาสนใจเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ความเจ็บปวด-บาดแผลของคุณ และเรื่องความสะอาดสุขอนามัยนั้น มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล คริสติชนจะมองไปที่กฎหมาย-ยา-สุขภาพชุมชน เราจะแคร์ลูกๆที่ใช้พื้นที่ของโรงเรียน สถานที่ ชุมชน หรือจะใช้ห้องน้ำรวมกัน อะไรก็ตามที่เราต้องอยู่ร่วมกันในสังคมโลก สิทธิมนุษยชน และความรัก-ความเข้าใจระหว่างเรามีต่อคนอื่น

ฉนั้นจะชายหญิงที่สมบรูณ์ หรือชาวLGBTทั้งหมดต้องใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม โดยไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร

ส่วนคำสั่งที่2 "จงรักพระเจ้าสุดจิต สุดชีวิต สุดกำลัง และสุดความคิด" นั้นคือการเคราพเชื่อฟัง คำสั่ง บทบัญญัติของพระเจ้า เช่นง่ายๆการทำตามพระบัญญัติสิบประการ ไม่ฆ่าคน ไม่เอาผัวเมียคนอื่น ไม่โกหก ไม่ปล้นฯลฯ ในที่นี้อาจจะมีคำสั่ง คำสอนอื่นๆ เช่น ห้ามใช้อวัยวะผิดหน้าที่ของมันมาสมสู่กัน ห้ามsexหมู่ ไม่ข่มขืนเด็ก-คนแก่-สัตว์ ซึ่งคำสั่งคำสอนทั้งหมดในพระคัมภีร์นั้น คนเราคือคนบาปจะชายหญิงที่มีเพศสมบรูณ์ หรือจะชาวLGBTล้วนต้องปฎิบัติตามด้วยกัน มนุษย์โลก7000กว่าล้านคนนั้นทุกคนรู้ทั้งรู้กฏอันเข้มแข็งนี้ ใครจะเคร่งครัด ใครจะไม่ทำตามก็ได้ขึ้นอยู่กับศีลธรรมของคนๆนั้น

แต่..พระเจ้าทรงยุติธรรมและก็ยังทรงเป็นพระเจ้า

ที่นี้ไม่ว่าฝ่ายไหนแหกกฎ-ไม่ทำตามพระบัญญัติ เราก็รับผลการกระทำนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย กฏของพระเจ้าจริงจัง เด็ดขาด ยุติธรรม เพราะเป็นความจริงแท้ กฏของพระเจ้าไม่ใช่กฏจราจร กฏหมาย พรบ ที่จะมุมมิบ หาช่องทางเอาเปรียบโกงกันไม่ได้เลย อย่างเช่นเรื่องของกษัตริย์ดาวิด ผู้ที่รักพระเจ้าที่สุด แต่เมื่อดาวิดจากเด็กต่ำต้อยเลี้ยงแกะในหมู่บ้านยากจนได้เป็นกษัตริย์ สิทธิพิเศษที่อนุญาตให้ผู้หญิงทั้งโลกพลีกายนอนกับเขาเท่าไรก็ได้(ตามกฎของยิว) แต่การฆ่าผัวแล้วเอาเมียของลูกน้องมาเป็นของตัวนั้นมันผิด เดวิดก็ต้องรับผลการกระทำ ซึ่งเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไปอ่านดูในซามานูเอล1-2 มันตกบาปนี้สู่ชั่วลูกและชั่วหลานข่มขืนกันเองในตระกูล แต่...พระเจ้าก็ยังรักษากฏและข้อตกลงคือ มอบพระเยซูให้มาบังเกิดในสกุลตระกูลของเขา และทุกวันนนี้ชื่อของ เดวิด กลายมาเป็นชื่อยอดนิยมในการตั้งลูกชาย หรือในไปใช้แทนชื่อของตัวเอง

ในที่นี้เมื่อคริสติชนอย่างผม ภรรยา และแม่ยาย บรรดาลูกๆของผม จะท่านบาดหลวง คุณหมอ ไปจนถึงประธานาธิปดีสหรัฐ เราทุกคนได้ทำตามทั้ง2กฏด้านบนแล้ว เรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณเป็นเรื่องของพระเจ้ากับคุณ ซึ่งผมเองไม่มีสิทธิตัดสินถึงพระคุณหรือพระพรที่คุณจะรับต่อพระเจ้าผู้ทรงแสนดี และถ้าอยากเข้าใจมันอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.jesusonhonosexuality.com และที่ www.paulonhomosexulity.com

ผมแปลบทความน่าสนใจจากเว็บและหนังสือเลยนำมาตั้งเป็นคำถาม3หัวข้อใหญ่ๆ ที่ชาวHomoอยากรู้ เริ่มข้อแรกกันเลย...

พระคัมภีร์ไบเบิ้ล ในพันธสัญญาเดิม และคำสอนเปาโลในพันธสัญญาใหม่กล่าวโทษ และรุนแรงกับเพศที่สามเหลือเกิน จะเป็นไปได้ไม่ที่จะยึดคำสอนของพระเยซูคริสต์ที่ไม่พูดถึงรักร่วมเพศเลย และยึดเอาบางตอนในพระวจนะพระเจ้า?

คำตอบคือ...คริสติชนหลายคนเห็นใจชาวรักร่วมเพศมากๆ เพราะหลายๆตอนในคัมภีร์ไบเบิ้ลเขียนไว้อย่างนั้นจริงๆ คริสเตียนเกย์คาราวาสออกมาเถียงว่านายร้อยโรมที่มาพบพระเยซูเพราะเขาเป็นเกย์กับคนใช้หนุ่ม โยนาธานรักดาวิดอย่างนี้ ความรักของนางรูธที่รักและผูกพันกับแม่สามี หรือความบริสุทธิ์ในการเข้าเฝ้าพระเจ้า เช่นห้ามชายมีอวัยวะเพศด้วน หรืออวัยวะเพศฝ่อห้ามมานมัสการพระเจ้าเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกันก็โต้เถียงว่า หญิงมีประจำเดือนนั้นมีมลทินในการเข้าเฝ้าพระเจ้า และ น่ารังเเกียจจนสั่งห้ามมีเพศสัมพันธ์(พระธรรมเลวีนิติ) บางหัวข้อในพระคัมภีร์ รักร่วมเพศให้ความเห็นว่าการสมสู่ผิดธรรมชาติหมายถึงคู่สมรสเฉพาะชายหญิงเท่านั้น หรือ การหลับนอนเพศเดียวกันมันคงเป็นโสเภณีชายในวิหารของพวกบูชารูปเคราพ มันต้องเป็นในยุคพันธสัญญาเดิมไม่ใช่ยุคสมัยใหม่

เดวิด บาร์เลท ตัวเขาก็เป็นผู้สนับสนุนสิทธิเกย์คริสเตียนบอกว่า "โดยหลักความชอบธรรม และ เป็นกลางที่สุดปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดมันอยู่ที่...การร่วมเพศ และต้องเจาะลึกเข้าใจพระคัมภีร์ให้ถูกต้อง" ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีพระพร และ คำสาปแช่ง มีสองทางให้เลือกคือนรกและสวรรค์ ความต้องการของพระเจ้าคือ การกลับคืนดีสู่พระองค์ และการเป็นชายแท้หญิงแท้ที่พระเจ้าทรงสร้างไว้ตั้งแต่แรก

มีเว็บไซด์หลายเว็บรวมถึงองค์กร นักวิชาการ นักศาสนศาสตร์ออกมาให้ความเห็นว่า เมืองไซดอมในปฐมกาลนั้นควรแยกกับชาวรักร่วมเพศ เพราะเมืองนั้นหาคนชอบธรรมไม่ได้เลยสักคน แม้แต่โลดเองซึ่งทูตสวรรค์เสี่ยงตายเข้าไปช่วยครอบครัวของเขาที่น่าจะเป็นคนดีที่สุดในเมืองนี้ แต่เขากับลูกสาวได้เสียกันขณะที่เมากันเองและให้กำเนิดชาวโมอับและอัมโมน(ชาวอาหรับทุกวันนี้) ชาวเกย์ รักร่วมเพศ และคริสตจักรต้องไปหาอ่านศึกษาข้อมูลในเว็บต่างประเทศ รวมถึงหนังสือต่างๆใน amazon.com อาจจะช่วยคุณเข้าใจได้ แต่..พระเจ้าเป็นของทุกคนพระเยซูรักทุกคน

มันไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณซึ่งเป็นHomoจะคิดอย่างไง? แต่มันอยู่ที่ว่าพระเจ้าจะคิดอย่างไรกับคุณมากกว่า

จะมีคริสตจักรหรือกลุ่มเซลใดต้อนรับอย่างจริงใจกับรักร่วมเพศได้บ้าง? อีกทั้งการบำบัดหรือการให้คำปรึกษาดูๆแล้วมันจะเป็นแนวคิดอนุรักษ์นิยมไม่ทันสมัย และค่อนข้างปรับตัวได้ยากมากๆ แล้วจะก้าวข้ามไปสู่การเรียนรู้ขั้นสูงอย่าง "การบังเกิดใหม่ ได้อย่างไร? ทุกๆวันที่เจอกับการทดลองภายนอก และภายในคริสตจักรจากเพื่อนคริสเตียนก็หนักหนาสาหัส

คำตอบคือ....คริสตจักรที่ต้อนรับรักร่วมเพศในประเทศไทยไม่มี(เสียใจด้วย) เพราะผู้นำเขากลัวมากที่จะเกิดปัญหา คนไทยยังดูหมิ่นพระเจ้าและมีอคติต่อคริสเตียนมากๆ พวกเขาแยกฮอลลี่วู๊ดกับพระเยซูไม่ได้เลย ในบ้านเราทั้งๆที่องค์กร คริสตจักรหลายแห่งต้อนรับโอบกอดผู้ที่ติดยา มือปืน นักฆ่า โสเภณี ผู้ติดเชื้อHIV แต่รักร่วมเพศกลับไม่ต้องการในที่นี้รวมถึงมุสลิมที่ต้องการมาเป็นคริสเตียน ผมอยากให้คุณทำใจ

1) ข้อแรกคุณเองก็ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีการดูหมิ่น กีดกันทางศาสนา และ มีอคติกับคริสเตียนเป็นอย่างมาก เพราะคนในประเทศนี้จะมีแนวคิดที่ว่า ใครก็ตามถ้ากลับใจมาเชื่อพระเยซูคริสแล้วคนๆนั้นจะต้องสมบรูณ์แบบ คริสเตียนคือการล่าอาณานิคม คริสเตียนโอหังคิดมาเปลี่ยนศาสนาซึ่งเขายังแยกไม่ออกว่า ศาสนา-ศรัทธามันคือสิทธิส่วนบุคคล ในหลายคริสตจักรเลยไม่อยากมีปัญหากับสังคมไทย ทางออกที่ดีคือ อยู่กันแบบเงียบๆ หรือไม่ต้อนรับพวกรักร่วมเพศจะดีกว่าปลอดภัยที่สุด

2) คุณต้องยึดมั่นในพระคริสต์ และไม่ย้อท้อกับการเปิดเผยตัวเอง หรืออับอายสารภาพบาปต่อผู้รับใช้ กับเพื่อน(ที่ไม่ปากเสีย) กับคริสตจักรหรือชุมชนที่คุณเป็นสมาชิก ที่สำคัญมีผู้รับใช้หลายคนที่เข้าใจเพศที่สาม และอดทนพอที่จะเลี้ยงดู ปลอบใจ ยืนเคียงข้างคุณแม้ว่าคุณจะล้มลงสักกี่ครั้ง

ส่วนคุณเองก็ต้องยอมรับกฏ ระเบียบ วินัย และนโยบายของคริสตจักรด้วย ไม่มีอะไรได้ดังใจคุณทุกอย่าง ต่างคนต่างต้องอดทนเพื่อพระกายของพระเยซูคริสต์ ที่สำคัญยิ่งคุณทุ่มเทให้พระเจ้าเท่าไร มารซาตานก็จะกระชากความรักที่คุณมีต่อพระองค์ไปเท่านั้น มันคือสงครามฝ่ายวิญญาณที่ต้องสู้ แต่คุณ หรือคริสเตียนอื่นๆ มีข้อเดียวเท่านั้นคือต้องชนะเพื่อลิ้มรสรางวัลที่พระเจ้าจะประทานให้ ห้ามแพ้เด็ดขาด

3) คนไทยและคนทั้งโลกยังแยกไม่ออกว่า รักร่วมเพศคืออะไร การยินยอมของเพศเดียวกัน การอยากมีครอบครัวคนรัก หรือการที่คนๆหนึ่งมีบาดแผลในชีวิตเติบโตมาด้วยกับความสับสนในเพศของตัวเอง และในการสับสนเพศหรือความต้องการของตัวเองนี้สามารบำบัดรักษาหายได้ ที่สำคัญรักร่วมเพศจะถูกตราหน้าว่าบาปหนา ถ้าเทียบกับไอ้พวกทรราชย์เอาเด็กมาเป็นทหารในสงครามกลางเมือง เสียมสอนประชาชนแตกแยก หรือผู้นำศาสนาที่มือหนึ่งถือคัมภีร์อีกมือหนึ่งกุมไอ้จ้อนของตัวเองแล้วสอนสาวกให้ฆ่าคนอื่นที่ไม่เชื่อในศาสนาของเขา และเรื่องอย่างคอรัปชั่นมันเลวร้ายน้อยกว่าคุณที่เป็นรักร่วมเพศ คอรัปชั่นทั้งที่มันนำมาสู่คนยากจน การฆ่าตัวตาย ครอบครัวล่มสลาย

และทุกคนก็ยังแยกไม่ออกว่า คนที่ถูกลวงละเมิดทางเพศ หรือใครสักคนที่ผิดหวังเกลียดชังตัวเองสวมวิญญาณชั่วไปแสดงออกโดยการข่มขืนเด็ก หรือคนที่อ่อนแอกว่าเพื่อสร้างอำนาจให้แก่ตัวเอง ในที่นี้อาจจะมีพวกโรคจิต และแก๊งป่าเถือนชอบข่มขืนเกย์ กะเทย ผู้ที่แปลงเพศ(ซึ่งเป็นคนดีๆ ทำงานดีๆ แต่จิตใจอ่อนแอ อ่อนไหว) คำว่ารักร่วมเพศเขาจะเหมารวมหมดไม่คิดอย่างอื่นเลย

4) ชาวรักร่วมเพศจงจำไว้ว่าอย่าคาดหวังให้คนอื่นช่วยเหลือ โลกนี้ไม่มีใครรักเราดูแลเราได้ดีนอกจากตัวเราเอง อย่าสุดโต่งเชื่อผู้รับใช้พระเจ้าไปหมดเพราะพวกเขาเองไม่ใช่ชาวLGBT เขาไม่เข้าใจปัญหาของคุณทั้งหมด คุณเองก็อย่าตกขอบถ้าไม่ได้ดังใจคิดประชดสังคม หรือมุ่งหาทางบำบัดหรือเรียนรู้เฉพาะด้านจิตวิญญาณ-ศาสนาเพียงด้านเดียว ควรพบหมอ จิตแพทย์ และ วิทยาศาสตร์การแพทย์ อีกอย่างการใช้ยา ฮอร์โมน มีผลเหมือนกัน และควรสร้างความเข้าใจเพื่อนร่วมโลกที่ว่า.. รักร่วมเพศคือคนที่ยินยอมกันและกัน ไม่ใช่ข่มขืน ขายตัว ลามกอานาจาร เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้าจนกลายเป็นสวะสังคม

ชาวรักร่วมเพศมีกี่กลุ่ม แล้วฉันจัดอยู่ในกลุ่มไหน?

คำตอบคือ มันขึ้นอยู่กับความคิดของคุณ โลกนิยมคนกลุ่มนี้ว่าLGBT มาตอนนี้หาตัวอักษรอื่นมาใส่เพิ่มเติมเข้าไปอีก ขนาดตัวเขาเองยังให้ความหมายกับตัวเองไม่ได้เลย แล้วคุณยังไปอ่าน ไปเชื่อ ไปฟังคนเหล่านั้นที่อ้างว่าเป็นกูรู ผู้รู้ นักวิชาการอีกไปทำไมกันเล่า ทำไมไม่เป็นตัวของตัวเอง รักร่วมเพศส่วนใหญ่แล้วเขาจะมีสองกลุ่มคือ เกย์ และ อดีตเกย์

อดีตเกย์คือ พวกที่เติบโตจากการรักร่วมเพศเข้าสู่ความสมบรูณ์ของพระคริสต์ และคริสตจักรของพระองค์ หรือพวกที่อยู่ใน "ภาวะหยุดนิ่ง" ในขณะเดียวกันอดีตเกย์สามารถสร้างชุมชนที่ทำตามพระคัมภีร์ จนหลุดพ้นจากสภาพเดิมสู่ความสมบรูณ์ทางเพศได้

อดีตเกย์บางพวกก็สร้างชุมชนนมัสการพระเจ้า พระเยซูคริสต์ โดยละเมิดหลักคำสอนสำคัญๆ ในพันธสัญญาใหม่ บางกลุ่มสร้างพระคัมภีร์ของตนเอง โดยคัดเฉพาะเลือกพระคำ หรือ คำพูดของพระคริสต์มาเท่านั้นแม้จะใช้หลักคำสอนเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าเราจะมีภูมิหลังอย่างไร ในพระคัมภีร์บอกว่า คริสเตียนไม่ควรแบ่งแยกกันเองตามลักษณะอื่น เช่น ยิว หรือ กรีก จะคนธรรมดาสมบรูณ์แบบ ไม่สมบรูณ์ หรือจะรักร่วมเพศ เราทั้งหมดเป็นกายเดียวกันในพระคริสต์

ไม่มีใครเลือกเกิดได้ และมีคำถามมากมายที่พระเจ้าไม่ตอบเราเช่น ทำไมเด็ก2ขวบสาวน้อยที่น่ารักความหวังของพ่อแม่ต้องมาถูกข่มขืน ทำไมมีสงครามกลางเมือง ความเหงา หดหู่ ฆ่าตัวตาย ถูกข่มเห่งมากมาย การแตกแยกในครอบครัว และทำไมคริสเตียนถูกฆ่าตายยกครัวทั้งที่ไปช่วยเหลือคนในชุมชนนั้น "รักร่วมเพศ" มันก็อยู่หนึ่งในคำถามที่รอคิววางบนโต๊ะทำงานของพระเจ้า ผลก็คือคนนับล้านๆละทิ้งพระเจ้า ไม่แน่ใจว่าพระองค์มีจริงหรือไม่

พระเยซูตรัสว่า..จะกระวนกระวายไปทำไมทุกวันมันก็มีทุกข์อยู่แล้ว พรุ่งนี้มันก็มีทุกข์ของพรุ่งนี้คอยอยู่(มัทธิว6) อยากให้คุณลืมไปให้หมดเลย...มนุษย์มันมีคำว่าทุกข์ แต่ระหว่างเรากับพระเจ้าคือ "ความรอด" และ "การทรงไถ่-การยกโทษบาป"

รักร่วมเพศอย่าได้ตั้งคำถามกับพระเจ้าเลยครับ..เรามาหาคำตอบกันดีว่า "พระเจ้าให้ฉันเกิดมาเป็นแบบนี้เพื่ออะไร?" เพราะอะไร? มันเริ่มเมื่อไร? อดีตมันเป็นอย่างไร? และอนาคตมีอะไรรอเราอยู่? ่ นั้นละพระองค์จะตอบเราเอง ขอแล้วจะได้ หาแล้วจะพบ เคาะแล้วพระองค์จะทรงเปิดเผยครับ!

คัดบางตอนจากงานเขียนของ Adrew Commisky โปรแกรมบำบัดของ Living water เว็บไซด์ Jeusu & Homo ปี2009 และหนังสือ Sex so good ปี2015 เนื้อหาที่เหลืออ่านเพิ่มเติมจากเว็บไซด์ หรือคลิปยูทูบผู้ที่ทำพันธกิจกับLGBTในการประกาศข่าวประเสริฐกับคนกลุ่มนี้จะมีข้อมูลเยอะกว่า