ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล พันธสัญญาเดิม และคำสอนของบรรดาสาวกพระเยซูคริสต์กล่าวโทษรักร่วมเพศรุนแรงเหลือเกิน ทั้งที่พระเยซูคริสต์ไม่ได้ต่อว่า หรือพูดถึงรักร่วมเพศเลย และดูเหมือนการมอบชีวิตแด่พระคริสต์ผ่านชุมชน หรือคริสตจักร ของพระองค์ยากเหลือเกิน

ไหนจะเจอกับพระธรรมที่บอกว่าบาป ก็คือบาป ไหนจะเจอกับชุมชนที่มองด้วยสายตาไม่ดี แล้วยังมีการเสพติศทางเพศที่ต้องต่อสู้ และ การถูกยั่วยุทางอารมณ์ุทุกวันที่เข้ามาในชีวิต รักร่วมเพศ เกย์ เลสเี้บี้ยนก็แย่แล้ว นี้พวกเราที่แปลงเพศละ?..ในพระคัมภีร์คืออะไรกันแน่?

 

ผมยกตัวอย่างมาให้ดู...โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งเกิดไฟไหม้เด็กๆกำลังจะตาย พวกเขาช่วยตัวเองไม่ได้เลยอีกทั้งตั้งอยู่ในสลัมคับแคบรถดับเพลิงเข้ามาไม่ได้ ขณะที่ครูชาย-หญิงแก่ๆสูงอายุทุกคนเป็นห่วงเด็กๆ ไหนจะหาทางเอาตัวเองให้รอด ทันใดนั้น!มีกระเทยหรือสาวข้ามเพศกระโดดมาช่วยดับเพลิง และบุกพังเข้าไปในอาคารเพื่อนำเด็กๆออกมา

แล้วทันใดนั้นจู่ๆมีเสียงผู้ปกครอง(ในที่นี้อาจจะเป็นอิหม่ามหัวรุนแรง พระเถระชั้นสูง หรือจะเป็นบาดหลวงในเสื้อคลุมที่เคร่งครัด)ท่านตะโกนว่า "หยุด" หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดให้หมดพวกสาวไม่แท้ที่บาปหนาชั่วช้าทั้งหลาย เรายอมที่จะให้เด็กๆถูกไฟคลอกให้ตายดีกว่าที่จะยอมรับความช่วยเหลือของพวกที่เกลียดชังอวัยวะเพศของตัวเอง-รักผู้ชายด้วยกัน วิตถารกามคุณ สกปรกอย่างพวกเธอ มันอัปยศเกินกว่าที่ประชาชน-ศาสนา-สังคมจะมายอมรับความช่วยเหลือจากคนบาปพวกนี้

ความคิดนี้..มันถูกต้องไม่ครับ? และถ้าคุณอยู่ในโลกอิสลามอิหม่ามจะสั่งบรรดาครูชราทั้งหลายที่ควรจะช่วยเด็กๆ กลับเสียเวลาจับคุณโยนเข้าไปในกองไฟนั้นพร้อมกับเด็กๆที่กำลังรอความช่วยเหลือ

่

ในฐานะที่ผมคนหนึ่งก็เป็นแค่มนุษย์ และอีกๆหลายๆท่านที่เป็นนักวิชาการ คุณหมอ จิตแพทย์ นักบำบัด รวมถึงศาสนจักรเองก็ไม่อาจะให้คำตอบได้เลยครับ ถ้าคุณไปดูเว็บไซด์และงานเขียนของบรรดาผู้ที่สนับสนุน กลุ่มช่วยเหลือ รวมถึงกลุ่มต่อต้าน และกลุ่มไม่เห็นด้วยอย่างพวกเคร่งศาสนาที่พยายามหาทางออกในเรืองนี้ เช่นเดียวกันกับสถานการณ์ไฟไหม้ที่ความจริงแล้ว การช่วยเหลือชีวิตน้อยๆของเด็กๆสำคัญกว่า แต่มันกลับกลายเป็นว่าปัญหายิ่งจะเลวร้ายกว่าเดิม

รักร่วมเพศนั้นสำหรับพระเจ้าแล้วการตัดสินเป็นของพระองค์เท่านั้น ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีทั้งพระคุณ พระพร และการยกโทษบาป ในพันธสัญญาใหม่เขียนถึงการลบบาป และการเชื่อฟังต้องทำอย่างไร ขณะเดียวกันในพันธสัญญาใหม่ที่มอบพระบุตรมาให้พวกเรา พระมหากรุณาธิคุณอันหามิได้นี้ช่วยเราอย่างไร มันไม่ใช่ทฤษฎืทางศาสนศาสตร์ที่ต้องเข้าใจ ไม่ใช่หลักการ วิชาการ ไม่ใช้ศรัทธา ไม่ใช่แค่ถูกสอนให้เชื่อ หรือเชื่อเอาเอง

มันอยุ่ที่คุณจะเข้าใจพระเจ้าใน3ลักษณะได้อย่างไร "ตรีเอกานุภาพ" แม้ไม่มีเขียนในพระคัมภีร์แต่มันมีความหมายมาก และทุกบททุกตอนในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นความจริง และลบล้างไม่ได้เลย ผมตอบได้คำเดียวว่า...ถ้าคุณเข้าใจ(จริงๆ)ของการบังเกิดใหม่ คุณจะรู้คำตอบในชีวิตแน่นอนเช่นเดียวกับสถานการณ์ไฟไหม้โรงเรียนสลัม

ไม่มีละคับ...ที่เมื่อใครคุกเข่าขอคำตอบแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตอบปัญหาของคุณดังที่มาร์ติน ลูเธอร์ จอนห์น วาสเลย์ เข้าให้เวลามาเกือบครึ่งชีวิต

ส่วนผมคิด(เอาเอง)ว่า..."ไอ้พวกที่คอรัปชั่น โกงกินบ้านเมือง เอาเปรียบคนอื่นแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง คอรัปชั่นสร้างความเดือดร้อน มหาศาลมันทำให้มีคนจนมากมายต้องขายลูก ขายตัว ขายที่นา ประเทศถูกปล้นสะดมทรัพยากร" ในขณะที่ไอ้พวกสาระเลวเหล่านั้น ได้รับเครื่องราชเกียติยศ สร้างสะสมบารมีที่เรียกว่าคนดีศรีสังคมแล้วบอกว่านี้คือผลบุญที่ตนเองมี แล้วคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงศีล ถือหลักคำสอนมหาศาสดาสอนให้คนอื่นเคร่งครัด ตัวเองไม่ทำมาหากินอะไรเลยดีแต่พูด(เทศน์)หลอกเอาเงินจากสาวกผู้เชื่อผู้ศรัทธาด้วยสารพัด มูลนิธิฯ โครงการ และวัตถุมงคล ผมว่าการที่คุณแปลงเพศจากรูปลักษณ์ภายนอก ขณะเดียวกันในจิตวิญญาณของคุณลึกๆแล้วโหยหาต้องการพระเจ้าช่วยเหลือในความบาป ความผิดปรกติ หรือจะบาดแผลในอดีตที่ใครทำกับคุณมาก่อนจึงเป็นแบบนี้ ผมยังคิดแบบนี้แล้วพระเจ้าคือ คนที่รักคุณที่สุดจะรังเกียจคุณได้ไง

มาดูคำถามของผู้ที่แปลงเพศต้องการคำตอบ ผมคัดมาบางส่วน..

คำถาม เมื่อเข้าสู่การบำบัด ผมปล้ำสู่กับเส้นทางใหม่นี้มาก แต่ดูเหมือนจะหลุดพ้นยากเหลือเกิน ความหวังที่จะก้าวสู่ขั้นต่อไป ไม่ว่าเรียนรู้หลักข้อเชื่อชั้นสูง หรือ เข้าใจในชีวิตนิรันด์ การบังเกิดใหม่ ส่วนใหญ่จะล้มลงก่อนจะไปถึงตรงนั้นแทบทุกราย!

คำตอบ หัวใจจริงๆของพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และ พระเจ้าคือทำอย่างไรที่จะเลือกการตัดสินใจด้วยความรับผิดชอบ และการใช้ปัญญาในยามที่เราเกิดความปราถนาเหล่านั้นต่างหาก อีกข้อหนึ่งก็คือ พระเจ้าสร้างชายและหญิงมาอย่างสมบรูณ์แบบ ความเข้าใจในพระเจ้าก็คือวันสุดท้ายของการทรงสร้างโลกนี้ คือวันที่พระองค์สร้างสิ่งที่พระองค์รักที่สุด นั้นคือการทรงสร้างมนุษย์ และสร้างขึ้นตามพระฉายของพระองค์ ไม่ว่าคุณจะเป็นชาย หรือ หญิง หรือจะแปลงเพศมาแล้ว จิตวิญญาณ และการแสดงออกมาของคุณทั้งหมดมันสะท้อนจิตวิญญาณพระเจ้าที่อยู่ในคุณนั้นละ(อ่านทำความเข้าใจปฐมกาล)

ส่วนการบำบัดนั้นอย่าไปซีเรียลกับมันมากไปเลยครับ คุณอายุมา40ปีมันเจออะไรมาเยอะสารพัดบาปชั่วมันต่างกับเด็กอายุ4ปี ฉนั้นมันต้องใช้เวลากันทั้งนั้น ผมขอยกตัวอย่างนักศึกษามหาลัยMITคนหนึ่งเขาถามบิล เกตต์ว่า เขาต้องทำอย่างไรหาเขาได้เข้าไปทำงานองค์กรระดับโลกMicrosoft บิล เกตต์ตอบว่า.. มันไม่ได้อยู่ที่คุณจะได้อะไรจากไมโครซอฟท์ สวัสดิการ เงินดีๆ holiday นวัตกรรมใหม่ หรือการพัฒนาตัวเอง แต่มันคือผู้ร่วมงานของคุณจะได้อะไรจากคุณต่างหาก

ไม่ต้องไปถึงไมโครซอฟหรอกคับ โลกนี้เขาก็อยากได้จากคุณแบบเดียวกัน

คำถาม ฉันเข้าใจดีในเรื่องของการแปลงเพศกับการผิดกฏของพระเจ้า แต่จะทำอย่างไรกับอวัยวะที่ฉันไม่ชอบ และถ้าแปลงเพศเป็นหญิง(ชาย)อย่างสมบรูณ์แล้ว นอกจากความสุขใจแล้ว ฉันได้รู้ถึงการมีคุณค่าต่อตนเอง และการยอมรับจากความสามารถของฉันในสภาพที่แปลงเพศแล้วจะดีกว่าเพศเดิมเป็นไหนๆ

คำตอบ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล คุณพูดถูกที่ว่าหลายคนจะยอมรับความสามารถของคุณ และคุณจะทำได้ดีกว่าสภาพเพศเดิม(จริงครับ) ก็เพราะคนเหล่านั้นแสวงหาผลประโยชน์จากคุณครับ หลายคนคิดว่าจะใช้เรือนร่างนี้กอบโกยผลประโยชน์ ่อย่าลืมว่าคนที่เขาจ่ายเงินให้คุณเขาก็ต้องใช้งานให้คุ้มราคา และต้องซื่อสัตย์กับเขาวันใดคุณไม่ซื่อสัตย์วันนั้นก็หมดรัก หมดความหมายนี้เขาไม่ได้เรียกว่า "รักแท้"

ส่วนเรื่องถูกหลอก-ถูกใช้งานนั้นในต่างประเทศนี้ละตัวดี โดยเฉพาะนักการเมืองที่สนับสุนนการแต่งงาน หรือกฏหมายสมรสของเพศที่สาม ก็เพราะเขาจะได้คะแนนเสียงจากรักร่วมเพศ และทนายความรวมหัวกับแก๊งที่ชอบหลอกชาวรักร่วมเพศพวกเขาก็หุบสมบัติมาเป็นของตัวเองได้ง่ายๆ ซึ่งนับวันเพศที่สามจะเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี คุณคือเหยื่อชิ้นใหม่ที่ผู้ใหญ่ต้องการจะยึดสิ่งที่พวกคุณสร้างมาทั้งชีวิต

วันที่คุณแปลงเพศอย่างสมบรูณ์นั้นละครับ คุณจะรู้ว่าคุณตัดสินใจนี้ไม่ได้แก้ปัญหาภายในลึกๆที่คุณมีจริงๆ และเมื่อถึงวันที่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดไป ไหนจะวัยทอง อ้วน หัวล้านฯลฯ ปัญหาสุขภาพตามอายุ(คนไทยทุกคนจะต้องเจอ เบาหวาน ความดัน หัวใจ) ตลอดจนโฮโมนทางเพศเริ่มลดลง ดูอย่างม้า-กระทิง-สิงโตที่แกร่ง หยิ่งจองหอง ดุ พยศขนาดไหน พอมันถูกตอนมันก็หมดสภาพกลายเป็นสัตว์แสนเชื่องกินและนอนเท่านั้น ผมไม่อยากให้คุณเป็นอย่างนั้นแม้ว่าวิทยาสตร์การแพทย์จะก้าวหน้าขนาดไหน

ในวันที่คู่ขาของคุณเขาใช้งานเรือนร่างที่คุณภูมิใจ มันหมดสภาพที่จะตอบสนองความสุข ความใคร่ไม่ได้แล้ว(นี้ยังไม่นับเรื่องเงินนะคับ) วันนั้น..คุณจะรู้ว่าใครคือคนที่รักคุณจริงๆ และรักไม่แปรเปลี่ยนเลย พระเยซูเจ็บปวดยิ่งกว่าคุณเจ็บอีกครับ ผมเองเข้าใจความเจ็บปวดของคนที่รักร่วมเพศที่อยากจะแปลงเพศ แต่ผมไม่สนับสนุนการแปลงเพศเลยครับ ก็เพราะผมก็รักคุณเช่นกันกับพระคริสต์

คำถาม หนังสือ บทความเกี่ยวกับรักร่วมเพศและพระคัมภีร์มีมากมายเหลือเกิน ที่จริงแล้วพระคัมภีร์ไบเบิ้ลไม่ชัดเจนเรื่องรักร่วมเพศ ทั้งกฏที่เคร่งครัดและการทรงไถ่บาป จะค้นหาได้จากที่ไหนเพิ่มเติม

คำตอบ พระคัมภีร์ไบเบิ้ลพูดไว้ชัดเจนแล้วว่าทรงสร้างมา2เพศเท่านั้นเด็กเกิดใหม่ทุกวันนี้ก็แยกได้แค่2เพศ ยกเว้นกรณีโคโรโมโซมผิดปรกติซึ่งหายากมากๆเรียกว่า1ในล้าน รักร่วมเพศมีมาตั้งแต่ปฐมกาลหลังจากความสมบรูณ์ในชายและหญิงคู่แรกของโลกมันสิ้นสุดลง สารพัดความชั่วช้าของมนุษย์ก็มีมา มันมีทุกรูปแบบครับพ่อแม่เอากับลูก คนเอากับสัตว์ มันคือยุคมืดไร้กฎศาสนาและกฎหมายต่อมาโมเสสได้ฟังเสียงพระเจ้ารับคำสั่งแล้วเริ่มออกฎของพระเจ้า ต้องไปอ่านพระคริสตธรรมคัมภีร์ผมไม่อยากพูดมันยาว

คุณอาจจะรับไม่ได้ในขณะเดียวกันก็อยากพบกับสันติสุขของพระคริสต์ พระองค์รักคุณไม่ว่าจะเป็นอย่างไร และเราทุกคนมีสิทธิเป็นบุตรพระเจ้าแม้ว่าจะแปลงเพศไปแล้วอย่างศิลยาภิบาลที่อินเดีย เธอเป็นผู้ที่แปลงเพศภายหลังกลับใจมาเชื่อพระเยซูแม้ว่าจะไม่สามารถผ่าตัดกลับเป็นเหมือนเดิมได้ เขาก็รับใช้พระเจ้านั้นรูปแบบนั้นละครับ ส่วนเรื่องเพศสัมพันธ์นั้นผมคิดเองนะว่าไม่น่าจะมีแล้ว เพราะเขาแก่แล้วและยากจนข่าวนี้ดังมากๆไปหาอ่านดูที่ข่าวคริสเตียนไทย

นอกจากเว็บไซด์ที่เราแนะนำคุณ(คลิกไปที่Link) จะมีหัวข้อของGroupพวกรักร่วมเพศ ที่รักพระคริสต์แต่จะเป็นภาษาอังกฤษ จะช่วยได้เยอะ

และก็มีหนังสือในamazon.com เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเิบิ้ลและพระยซูคริสต์ที่เขียนโดยผู้เชียวชาญในการบำบัด ยังมีหลายเว็บไซด์แต่ก็ต้องใช้วิจารณาณ เพราะมีกลุ่มคนหลายกลุ่มทั้งถูกต้อง และ เทียมเท็จ โดยส่วนตัวแล้ว livingwaterในประเทศไทย และ หนังสือคริสเตียนที่amzon.comจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเราก็คัดลอกงานเขียนเว็บหน้านี้มาจากที่นั้นเช่นกัน อย่าลืมDown Load เอกสารของ Sye Roger เขาเป็นผู้ที่เคยแปลงเพศมาแล้วเรามีให้คุณอ่าน

ที่จริงมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไรกับพวกชาวคริสเตียน หรือกับพระเจ้า หรือกับพระเยซูคริสต์ มันอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงคิดอย่างไรกับคุณต่างหาก ความจริงแล้วไม่มีวันที่คนๆหนึ่งจะกลับใจจากความบาป หรือสำนึกได้ว่า เราเป็นคนบาปและม่มีใครชนะโลกนี้ได้ ยกเว้น พระเจ้าทรงกระทำให้คนๆนั้นมองเห็นความบาปของตนเอง

นั้นคือทรงกระทำทุกอย่างที่จะนำคุณกลับมาคืนดีกับพระองค์ และได้เลือกคุณไว้สำหรับความสมบรูณ์ในการสร้างตัวตนที่แท้จริงของคุณ เราทุกคนที่มาเชื่อในพระเยซูคริสเจ้าโชคดีกว่าคนอื่นอีกมากมายในโลกนี้ ซึ่งรวมถึงคุณด้วยไม่ว่าในสภาพใด