Song of Solomon

คัดจากอรรถธิบายพระธรรมเพลงโซโลมอน จากคู่มือศึกษาพระคัมภีร์ซึ่งพิมพ์มาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน

น่าเสียดายไม่มีบอกไว้ว่า พิมพ์ปีไหน องค์กรใด และใครเป็นผู้จัดทำใน นักศาสนาสตร์หลายท่านบอกว่า พระธรรมบทนี้พูดถึง ความรักระหว่างชาย กับ หญิง เปรียบเทียบความรักระหว่างพระเจ้ากับ ประชากรของพระองค์ และ ความรักของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อคริสตจักร ผ่านความรู้สึกและแรงเร้าทางเพศของความเป็นชายหนุ่มของกษัตริย์โซโลมอน เมือเราได้คัดบทศึกษาจากคู่มือเล่มนี้ น่าสนใจมาก และน่าเสียดายที่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ถอดความพระธรรมนี้ (ถ้าคุณไม่ใช่คริสเตียนมีความต้องการจะอ่านพระธรรมบทนี้ หรือจะเป็นบทอื่นๆไปที่Rock Church จะมีLinkศึกษาพระคัมภีร์Online)

มีหลายคนตีความบทนี้ว่า สาวชูเนมคนนน่าจะเป็นคนเดียวที่พูดถึงคือ “อาบีชาก” ผู้ที่เป็นพรมจรรย์เธอคงเป็นเด็กสาวที่ถูกเลือกให้ปรณนิบัติกษัตริย์ดาวิด และอาบีชากนี้เอง ความงามของเธอคงเป็นที่ต้องใจของลูกชายเดวิด เห็นได้จากบทซามานูเอลที่ อาโดนิยาห์ ต้องการชิงบัลลังก์จากโซโลมอน แล้วคุณคงจำได้ที่ว่าโซโลมอนโกรธและพูดแดกดันต่อมารดาของเขาว่า "ยกอาบีชากให้พี่ชาย ถ้างั้นก็ยกอาณาจักรทั้งแผ่นดินให้ไปด้วยเลยสิ" เวลาอ่านพระธรรมบทนี้อย่าลืมว่าคนสมัยก่อนจะไม่พูดตรงๆ เช่นแก้มจะบอกว่าเป็นดอกไม้ ขอจูบดอกไม้อะไรทำนองนี้มันชวนSexyเหมือนกับโฆษณาทางทีวีทุกวันนี้เช่นกัน

บทที่1 เรื่องราวของหญิงชาวชูเนม

น่าจะเป็นสาวน้อยเริ่มแตกเนื้อสาว เป็นเด็กสาวเลี้ยงแกะ และ คงต้องดูแลสวนอวุ่นให้ครอบครัวด้วย เธอเป็นคนผิวเข้มดำขำอันเนื่องมาจากงานที่ทำประจำ และ เธอคงจะสวยมาก อาจจะสวยที่สุดในเผ่า จนถูกคัดเลือกให้พบกษัยร์ติโซโลมอน ในที่นี้จะเห็นภาพเธอพบโซโลมอนครั้งแรกที่โต๊ะอาหารเพื่อจะถูกนำตัวเข้าวังหลวง

บทที่2 เธอคนนี้มีคนรักอยู่ก่อนแล้ว

จะเป็นท่อนที่ต่อจาก ท่อนที่1 เธออธิบายว่า เธอมีคนรักอยู่แล้ว และ คิดถึงมาก ที่จะต้องพรากจากกัน คำบรรยายบทนี้ อธิบายว่าเธอถูกแปลงโฉม และ ท่ามกลางนางสนมอื่นๆ(บุตรีแห่งเยรูซาเล็ม) เธอคงจะโดดเด่นมาก และยังคงรำพึงรำพันถึงคนรัก ตลอดเวลาที่เข้าวัง

บทที่3 ถูกนำตัวเข้าวังหลวง

น่าจะเป็นเธอฝันถึงคนรักที่จากมา แล้วเที่ยวบอกพวกนางสนม(บุตรีแห่งเยรูซาเล็ม)หรือใครต่อใครว่าคนรักของเธอ วิเศษแค่ไหน และ คิดถึงเขามากแค่ไหน ในที่นี้จะมีภาพขบวนแต่งงาน หรือ วอ ที่รับเธอเข้าวัง จะเห็นว่าการเป็นมเหสี หรือ นางสนมของกษัติรย์นั้นยิ่งใหญ่มาก

บทที่4 โซโลมอนพยายามจะเอาชนะใจเธอให้ได้

ท่อนที่ถือว่า Sexyมากๆ ชี้ให้เห็นว่า พระองค์ทรงหลงใหลเธอขนาดไหน "น้องได้ปล้นดวงใจพี่ไปแล้ว" และ บรรยายรูปร่าง ตลอดจนแรงดึงดูดทางเพศของเธอที่มีต่อพระองค์ บางตอนอ่านไปแล้วเขินแทนทั้งคู่ เพราะคำพูดที่แสดงออกมานั้นแสนหวานซะเหลือเกิน

บทที่5 เป็นคำรำพึงระหว่างโซโลมอนกับสาวน้อยชาวชูเนม

มันทำให้เห็นว่า พระองค์รักเธอขนาดไหน ขณะเดียวกันสาวน้อยกลับไปรำพึงถึงคนรักที่เลี้ยงแกะ เธอคงจะฝันว่าคนรักมาเคาะประตู แล้วเธอก็ลุกขึ้นไปตามหาจนทหารยามทำร้ายเธอคิดว่าเธอจะหนี เพราะไม่ว่านางสนม หรือทหารยามเธอก็เล่าให้ฟังถึงคนรักของเธอ

บทที่ 6 และ 7 โซโลมอนยลโฉมเธอ

ทั้งสองคนได้พบกัน คำสรรเสริญเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือ เจ้าสาว นักศาสนาสตร์บางท่านตีความว่า คงจะเป็นชายหนุ่มเลี้ยงแกะ ที่รำพึงถึงเธอ บางรายก็บอกว่า น่าจะเป็นโซโลมอนวัยแตกเนื้อหนุ่มรำพึงถึงเธอมากกว่าแต่ทำอะไรเธอไม่ได้ แต่ที่เป็นบทคำสรรเสริญเจ้าบ่าวนั้น ฝ่ายหญิงจะพูดถึงคนรักที่เธอพรากจากมา แม้พระองค์จะยลโฉมเธอ แต่เธอก็ยังบอกว่า ตัวของเธอนั้นถึงยังไรก็เป็นกรรมสิทธิ์แก่คนรักของเธอเพียงผู้เดียว สาวคนนี้เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมากแม้ว่าเธอจะอยู่ในวัง ท่ามกลางความหรูหราเสนอให้เธอทุกอย่าง แต่ไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวเลย

บทที่8 ความรักเข้มแข็งดังความตาย

เป็นคำพูดที่Sexy และ ทรงพลังมากๆ โซโลมอนบอกว่า ความรักเมื่อมันมีแล้ว ยากที่จะดับไฟรัก และ เงิน ทอง ไม่สามารถซื้อความรักได้ แตกต่างในยุคนี้ เงิน-ความสำเร็จมีค่ามากกว่าคนรักและความรัก ส่วนตอนจบ ผู้รู้หลายท่าน(นักศาสนศาสตร์) เข้าใจว่าพระราชา เดวิด หรือโซโลมอน คงจะทรงปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ให้เธอกลับไปหาคนที่เธอรัก หรือ กลับไปแต่งงานกับชายคนนั้น(ในที่นี้หมายถึงเธอยังคงรักษาพรมจรรย์)

อยากให้คุณเข้าใจว่าความรักที่แท้จริงรู้สึกึงรักแท้จริงๆ ผู้รวบรวมพระคัมภีร์คงจะระลึกถึงความรักที่พระเจ้ากับเราเลยนำมารวบรวมในคัมภีร์ไบเบิ้ล อ่านเพิ่มเติม ทำความเข้าใจ 1 โครินทร์ บทที่13 เข้าใจความหมายของคำว่า "รัก" ไปที่หน้า Down Loadจากงานเขียนคลาสสิคไม่ตีพิมพ์อีกแล้ว ลึกซึ่งกว่านี้อีก