แต่งงาน กับคนนอกศาสนา
หากข้อบังคับทางศาสนา จะใช้ชีวิตคู่ สร้างตระกูลมันเคร่งครัด ก็อย่ามาเป็นคริสเตียนเลย
คริสเตียน กับ การแต่งงานผู้ไม่เชื่อ ปัญหาหนักอก และ มีคำถามมากที่สุดแต่ไม่ใครกล้าถามเพราะรู้คำตอบว่า "ไม่ได้" หรือ "ห้ามแต่งงานกับคนนอกศาสนา เพราะคัมภีร์บัญญัติไว้แบบนั้น" บางคนได้คำตอบที่ว่า "โธ่..ขนาดศาสนาเดียวกันยังไปกันไม่รอดเลย แล้วจะไปเอาคนนอกศาสนาไปทำไม" แต่คำว่ารัก "ไม่มีพรมแดนขว้างกันระหว่างเชื่อชาติและศาสนา" หากข้อบังคับทางศาสนาเรื่องการแต่งงาน และการใช้ชีวิตคู่เคร่งครัด ยุ่งยาก ปวดหัว กระดิกกระเดี้ยวไม่ได้ ก็อย่ามาเป็นคริสเตียนเลย
เพราะมันก็เหมือนกับศาสนา และขนบธรรมเนียมอื่นๆที่บังคับคนอื่น คุณเคยอ่านพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมช่วยบอกหน่อยว่าบทไหนบอกว่า "ห้ามแต่งงานกับผู้ไม่เชื่อ" จะบอกให้ว่าคุณหาไม่เจอหรอก และ95%ของคริสเตียนเองหาไม่เจอว่ามันอยู่ตรงไหน ร้อยทั้งร้อยบอกว่าฟังคำพูดจากนักเทศน์ พี่เลี้ยง ผู้ปกครองคริสตจักร หรืออาจจะอ่านของท่านเปาโลในบทโครินทธิ์ ขอถามหน่อยว่า..คุณเคยหาจริงจัง และถอดคำพูด หรือเข้าใจจริงๆในพระคัมภีร์บทที่บอกว่าห้ามแต่งงานกับคนนอกศาสนาหรือไม่ ถ้าคุณตอบว่าไม่เลย และไม่เคยศึกษา ไม่เข้าใจจริงๆ ไม่รู้แม้แต่ตัวอักษรที่บอกไว้นี้มันอยู่บทไหน ได้แต่ฟังคนเขาสอนมา หรือรุ่นพี่บอกมา คุณตอบแบบนี้มาถูกทางแล้ว เพราะคุณกำลังจะเข้าใจเรื่องของการแต่งงาน
เข้าใจเหตุผลของคำสั่งห้ามแต่งงานกับคนนอกศาสนา
ก่อนพระเจ้าจะให้คำสั่งเรื่องของการแต่งงานกับคนนอกศาสนา พระองค์มีเหตุผลการให้ เราไม่อยากเขียนบนหน้านี้ เพราะเราปราถนาให้คุณเข้าไปหาอ่านชนชาติบริสุทธิ์ในเฉลยธรรมบัญญัติ7 และค้นหาด้วยตนเองในไบเบิ้ลว่า คำสั่งของพระเจ้าต่อชนชาติบริสุทธิ์ คำสั่งต่อการเชื่อฟังนี้จะได้อะไรตามมา ข้อตกลงหรือคำสั่งที่ว่านี้ มีเหตุผลเดียวคือ ไม่ให้พวกเขาจะไปนับถือพระ หรือ รูปเคราพตามที่คนรัก(นอกศาสนา ซึ่งอาจจะนับถือพระ ภูต วิญญาณ เทพเจ้าอื่นๆ)ของเขาที่คู่รักนับถือนั้น นำมาซึ่งการละทิ้งความเชื่อ ละทิ้งพระเจ้า นี้คือข้อเดียวที่ห้าม แล้วเราทุกคนรู้ดี แต่มันก็แค่กฏ แค่ข้อห้าม ในที่สุดแล้วพวกเขาก็แหกกฏ ทำไม่ได้ กฏของพระเจ้ามันก็แค่ลมปาก เพราะฉนั้น..การลงโทษจะต้องมี
แล้วมนุษย์จะรับอะไรถ้าไม่เชื่อฟังพระองค์ก็อ่านได้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เพราะพระเจ้าไม่ต้องการให้เราฟัง หรือเชื่อ แล้วก็ไม่ทำตามไม่งั้นกฏของพระเจ้าก็ไม่ต่างกับกฏหมาย กฏจราจร รู้ว่าผิดก็จะทำเสียอย่าง กฏของพระเจ้าไม่ใช่เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา เข้าโบถท์วันนี้ให้สัญญา เมื่อออกจากโบถท์ ก็มีนิสัยเหมือนเดิม เพราะนรก กับ สวรรค์ และการพระพร กับ คำสาปแช่งคุณต้องจริงจัง ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อลูกๆ ของพระองค์
กฏห้ามการแต่งงานกับคนนอกศาสนากลับทำให้ แซมซัน โซโลมอน ล้มลงจนไม่น่านำมาให้เป็นตัวอย่าง แม้ว่าเขารักพระเจ้าแค่ไหนเขาก็รักคนอื่นที่ต่างเชื้อชาติ นี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่พระเจ้าทำให้ยิวได้เห็นว่า พวกเขาเคร่งครัดเท่าไรในกฏบัญญัติ แต่แล้วพวกเขาทำไม่ได้เลย พอมาถึงพันธสัญญาใหม่ พระคริสต์ไม่มีพูดถึงการแต่งงานกับคนนอกศาสนา แต่มีหลักฐานในตอนที่พระองค์พบหญิงสะมาเรียที่บ่อน้ำ และ อุปมาพูดถึงชาวสะมาเรียที่ช่วยเหลือคนอื่น แสดงให้เห็นว่าพวกลูกครึ่งสมัยนั้นถูกดูถูกมากๆ นี้คือผลผลิต products ของการแต่งงานข้ามศาสนา และ เชื้อชาติ
กฏ หรือคำสั่งของพระเจ้าใครทำได้ก็คว้ารางวัล
คราวนี้กลับมาอ่านบท1โครินทร์7 ที่เปาโลได้บอกถึงการใช้ชีวิตกับผู้ที่ไม่เชื่อ ท่านสั่งว่า"จงอย่าได้หย่ากัน" หากว่าคู่สมรสนั้นไม่สามารถรับได้ในความเชื่อของเราที่มีต่อพระคริสต์ แล้วถ้าคู่สมรส คู่รักของเราขอแยกทางในเรื่องนี้ก็ต้องให้เขาจากไป จากการสำรวจมาไม่เคยมีใครหย่าร้างกันเพราะเรื่องศาสนา-ความเชื่อนี้เลย ส่วนใหญ่จะหย่ากันเพราะคบชู้ เงิน และหยาบคายรุนแรงในครอบครัว
สมัยก่อนคู่สมรสใครคนหนึ่งเป็นคริสเตียนอยู่กันอยากมาก แต่ปัจจุบันมันคนละอย่าง ที่สำคัญการบังคับให้คู่สมรสให้เข้ารีตนั้นไม่สมควร เพราะความเชื่อเป็นของแต่ละคน และการทรงเรียกเป็นของพระเจ้าเท่านั้น และพระองค์เรียกทุกคนก็จริง แต่ไม่ทุกคนจะเชื่อในพระองค์ และไม่ทุกคนนี้น้อยคนนักที่จะเข้าแผ่นดินสวรรค์ หัวใจจริงๆ ในคำพูดเปาโล คือเราทำอย่างไรให้คู่สมรสได้รอดพ้นจากบาปเช่นเดียวกับเรา ดังที่ท่านเปาโลเขียนไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์
ปัญหาคู่รักคู่สมรสไม่เชื่อในพระคริสต์เป็นปัญหาโลกแตก ประเทศไหนสัญชาติไหนก็เจอ ยิ่งที่ต่างประเทศฝรั่งผัวเมียมีความเชื่อเดียวกันในพระคริสต์ยังไปคนละโบถท์ หรือเวลาทะเลาะกันแทนที่จะยกสันดานนิสัยไม่ไดีเอามาตำหนิกัน กลับเอาชนะกันโดยดึงพระเจ้าลงมาด่าอีกฝ่ายกันเสียนิ ปัญหามันอยู่ที่ตัวเรามากกว่าหลักข้อเชื่อ จะบอกอะไรให้นักจิตวิทยาด้านสมรสบอกว่า "คุณเป็นคนอย่างไร นิสัยอย่างไรและเติบโตหรือไม่ ก็ดูคู่สมรสของคุณนั้นละคือกระจกส่องตัวคุณเอง" คุณปรณิบัติคู่สมรสอย่างไรเขาก็ตอบแทนกลับมาอย่างนั้น
เป็นลูกพระเจ้า หรือเป็นคริสเตียนต้องไม่โง่
พระเจ้าเองทรงมีอำนาจเหนือทุกสถานการณ์ ทรงจะให้คนที่ดูถูกความเชื่อของคุณจะล้มลงในวันนี้ก็ยังได้ หลายคนอิจฉาที่คนอื่นนำคู่สมรสและครอบครัวมาเชื่อพระเยซูได้ มีชีวิตที่สงบสุขนั้น หรือบางคู่ต่างศาสนาแต่อยู่กันได้โดยไม่ทะเลาะกันในเรื่องความเชื่อ นั้นเพราะพระองค์ทรงเลือกไว้ แล้วไม่ต้องทุกข์ใจที่พระเจ้าทรงเลือกเราแต่ไม่เลือกคนอื่นในครอบครัวของเรา ก็ทำได้แค่จัดการส่วนของตนเองแล้วอธิษฐานเผื่อเขา เราเจอกันบนโลกนี้แค่ชั่วคราว เมื่อจากไปก็ไม่รู้จักกันแล้ว และต่างคนต่างไปภพภูมิตามกฏแห่งกรรมของตน
หากว่าคุณยังอยู่จุดเดิม ยังเจอกับปัญหาเดิม ทั้งๆที่พระองค์มีอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยนสถานการณ์นั้น แล้วทำไมพระองค์ไม่ทำ คงต้องสำรวจตัวเองก่อน เพราะหลายคนทนคู่สมรสสุดโต่ง หรือเป็นคริสเตียนตกขอบ เก่งกล้าอิทธฤทธิ์ ฤทธิ์เดช พูดภาษาแปลกๆแทนภาษารัก ชอบไปทำกิจกรรมคริสตจักรมากกว่าไปHolidayกับเขานั้นมันไม่ได้หรอกนะ
พระเจ้าไม่ทรงต้องการเห็นน้ำตา หรือ สนุกกับความเจ็บปวดในปัญหาของคุณ ชีวิตคุณไม่ใช่ของเล่น มีคนพร้อมจะช่วยเหลือคุณเช่น รายการจากใจถึงใจ(ของคริสเตียน)มีสายด่วนช่วยหาคำตอบให้คุณไปที่เว็บของเขาได้ อีกทั้งหนังสือและAudioช่วยคุณลองไปที่หน้า Book & CD และที่หน้า โปรแกรมบำบัดได้เลย