สินทรัพย์ และชีวิตสมรส

การวางแผนครอบครัวไม่ใช่แค่พ่อแม่ และลูก3เท่านั้น

ประเทศไทยเราถูกครอบงำกับบางสิ่งมากนานแสนนาน สมองเลยคิดอะไรไม่ออก เราจึงขาดคนมีความสามารถ คนเก่งจริงๆ มาเป็นผู้นำ เริ่มตั้งแต่คุณครู ผู้นำศาสนา และข้าราขการ รวมถึงผู้นำประเทศ ดูได้จากการวางแผนครอบครัวที่คนรุ่นผมถูกสอนมาด้วยป้ายภาพพ่อแม่ควรมีลูก3คนที่หน้าสำนักงานอำเภอ ที่จริงแล้วการวางแผนครอบครัวนั้นหมายถึงสุขภาพวัยเจริญพันธุ์ของพ่อแม่ สุขภาพของลูกๆที่จะเป็นพลเมืองของชาติ การวางแผนทางเงิน และความมั่นคงของครอบครัว ที่จะส่งมอบจากเราสู่รุ่นต่อไป...พูดไปก็เศร้า

ก่อนจะคุยเรื่องอื่นใด ขอให้คุณอ่านเรื่องจริง ซึ่งเป็นเรื่องจริงๆ ที่น่าเศร้าปนความสุข หญิงไทยชาวคริสเตียนคนหนึ่งได้สมรสกับชาวต่างชาติ อดีตเป็นนักแข่งรถระดับแชมเปี้ยนในรัฐบ้านเกิดของเขา แต่ประสบอุบัติเหตุ และได้ขายธุรกิจกิจการทุกอย่างมาใช้ชีวิตกับเธออยู่เมืองไทย ภายหลังฝ่ายหญิงมารู้ว่าในตัวของฝ่ายชายใช้อวัยวะเทียมบางส่วน และอวัยวะเพศของเขาใช้การฝังแกนเนื่องมาจากอุบัติเหตุสมัยเป็นนักแข่ง เขาจึงมีรสนิยมทางเพศที่ต้องให้เธอช่วย นั้นคือจะมีความใคร่ ตื่นตัว มีความต้องการร่วมรักกับเธอนอกสถานที่ ถ้าคิดในทางศาสนาถือว่าไม่ผิดยังอยู่ในระบบ และฝ่ายภรรยาก็รับได้เพราะเขาจะตอบสนองกับเธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ไปหาโสเภณีมีชู้กับใครเลย ปัญหามีอยู่ว่าเธอต้องขับรถไปไกลๆ เช่นพัทยา เกาะช้าง หรือสถานที่ใหม่ๆแปลกๆตามที่สามีอยากไป เธอจึงมีความรู้สึกว่าเป็นภาระหนัก

ฉะนั้นคู่รักต่างฝ่ายต่างDeclareเปิดเผยออกมาก่อนจะแต่งงานกัน ไม่ว่าจะรสนิยมทางเพศ โรคประจำตัว หนี้สิน และลัทธิความเชื่อ ประเพณีบรรพบุรุษ อีกฝ่ายจะรับได้หรือไม่

สมัยนี้ก่อนแต่งงานต้องพบหมอ และเครดิตบุโร

หากคุณจำข่าวดังของคู่รักดาราที่คบหากันมายาวนานถึง7ปี พระเอกคนดังได้ให้ข่าวกับแฟนคลับว่า พวกเขาซื้อแพ็กเก็ตของทางโรงพยาบาลในการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพื่อเตรียมพร้อมมีลูก อันนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งยวด เราไม่ได้อยู่ในยุครัตนโกสินธ์ตอนต้น ที่จะแต่งงานมีลูกกันง่ายๆ โลกเปลี่ยนไปมากคุณเองก็ต้องเปลี่ยนด้วย อย่างเรื่องจริงข้างบนที่อ่านไป คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการทั้งสัญชาติ สีผมสีผิว เป็นคนเก่ง และไม่ขัดสนเงินทอง มีกินมีใช้ก็จริง แต่ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ภาพที่คุณเห็นชีวิตคู่สาวไทยกับต่างชาติอยู่กินกันในบ้านหลังใหญ่โตในชุมชนในหมู่บ้านของคุณ เราไม่รู้ชีวิตอีกด้านของเขา ผมเจอชาวต่างชาติมาหลายคนที่ฝ่ายชายเป็นเกย์ เป็นโรคเรื้อรัง ติดยาเสพติด หรือมีคดีติดตัวที่บ้านเก่า พวกเขามาแต่งงานเพื่อเริ่มชีวิตใหม่เพราะสาวไทยไม่รังเกียจ ไม่รู้เรื่องชีวิตลับของพวกเขา ต่อหน้าเขาคือสามีที่ดีส่วนการไปนอนกับคู่ขาก็เป็นชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องบอกใคร หากเธอไม่รู้เสียอย่าง

คนไทยมักเชื่อสนิทว่าภาพข่าวดารา คนดัง ในหนัง TV หรือแม้แต่สาวไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศมีชีวิตราวกับเทพนิยาย คนเหล่านี้พวกเขาจะพูดอะไรก็ได้ เพื่อสร้างภาพยกระดับตัวเอง ส่วนเบื้องหลังไปกู้หนี้ยืมสินผ่อนส่งค่าจัดงานแต่งงาน ค่าสินสอดที่เอามาวางอวดชาวโลก หรือธุรกิจที่ตนเองร่วมกันทำนั้นนั้น มันช่างสวยงามเลิศเลออย่างที่เห็นจริงหรือ? จนคนดูลืมชีวิตอีกด้าน บอกตรงๆมีหลายคู่เริ่มต้นสร้างครอบครัวก็เป็นหนี้เขาเสียแล้ว แล้วคนที่สอนให้คนไทยเชื่อว่า คนดังดารารดน้ำทำพิธีแต่งงานสาบานว่า "จะรักกันทุกๆชาติ" ก็บรรดาสื่อมวลชนที่นำเสนอ คุณไปดูไปฟังแล้วเชื่อสิ่งนี้...ไม่แปลกที่ชีวิตคุณถึงเป็นแบบนี้

ถ้าไม่อยากทำ "สงครามเย็น" ก็จงดูแลตัวเองให้ดีก่อน

ยิ่งคนวัย40ปีขึ้นไป คุณต้องพร้อมแล้วสำหรับตนเองอย่างน้อยสุขภาพต้องแข็งแรง มีเงินเก็บพอมีหลักประกันทั้งสุขภาพในการดำรงชีพของตน ไม่ใช่รอเจ้าสั่ว-แม่หม้ายทางการเมืองมารับไปแต่งงาน คุณไม่มีวันกลับไปทำงานสมัยวัยรุ่นอย่างเดิมได้อีกแล้ว คุณไม่สามารถใช้แรงงานของคุณแบบเต็มกำลังเหมือนที่ทำในโรงงานอีกต่อไป ฮอร์โมน อายุ และวัยที่มากขึ้น ชีวิตวัย40ปีขึ้นไปควรจะมีเงินเก็บออมของตนเอง ไม่ต้องถึงกับรวยเป็นล้านๆ แต่มีงานมีรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนตัว หนี้สินที่กู้ยืมมีพอจ่ายได้ รู้ไม่..หนี้บางอย่างก็เป็นหนี้ที่ดีเช่นหนี้ผ่อนบ้าน หนี้การลงทุนค้าขาย หนี้ในการลงทุนทำการเกษตร แล้วถ้าportfolioการลงทุนของคุณ มันพอดีกับสัดส่วนกำลังแรงงานเงินทุนที่คุณทำได้ การมีหนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายไปเสียหมด แต่ถ้าคุณแต่งงานกับใครสักคน เกิดเขามีหนี้สิน คุณจะต้องรับภาระหนี้ร่วมกับเขาไปด้วยกัน (อ่านเพิ่มเติมที่การวางแผนการเงิน)

ยุคสมัยนี้แสนง่ายในการปล่อยเงินให้คุณกู้ยืม แต่ถ้าคุณรักษาเครดิตทางการเงินของคุณไม่ดี อย่างบัตรเงินกู้ส่วนบุคคลที่เริ่มต้นแค่6000บาท เงินกู้กยศ เพื่อการศึกษา คุณก็จะเสียโอกาสหลายๆอย่าง แล้วพาคู่สมรสหรือลูกๆติดพ่วงไปด้วย ผมเองไม่อาจจะเล่าอธิบายชี้แนะคุณได้ แต่รายการช่องสถานีเคเบิลที่เกี่ยวกับทางการเงิน การลงทุน การธนาคาร Smart money จะชี้แนะช่วยคุณได้ดีมากๆ หากหาดูยากก็เปิดยูทูบดูได้ ที่สำคัญอย่าไปคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนรวย ผิดถนัดเลยหลายๆกรณีเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น การผ่อนรถยนต์ บ้าน กยศ หนี้การศึกษา การลงทุนซื้อหุ้น ซึ่งแม้แต่ชาวนา มอเตอร์ไซด์รับจ้างก็ซื้อกองทุนได้ ธนาคารบางแห่งขายแค่เดือนละ500บาทให้คุณสะสม หรือกองทุนเงินออมแห่งชาติของรัฐบาล

ดัดแปลงต้นฉบับมาจาก Sex so good และ Facebook.com/พระเจ้ากับsex

 

คู่สมรส จะต้องรับภาระหนี้สิน

จำเรื่องของสุภาพสตรีด้านบนได้ใช่ไม่? เธอเจอเรื่องไม่คาดฝันหลังแต่งงานจากสุขภาพและชีวิตทางเพศของสามีของเธอ แม้เธอจะยอมรับและรักเขา ผู้ชายตัดสินใจแต่งงานกับคนนี้ก็เพราะเห็นว่าเธอเป็นคนดี และดูแลเขาได้นั้นเพราะทั้งคู่เป็นของกันและกัน ที่นี้หากคู่สมรสของเรามีหนี้สินละ เกิดเขาหรือเธอลงทุนกิจการอะไรบางอย่างกับสามีหรือภรรยาคนเก่า หรือเกิดไปค้ำประกันลูกๆซื้อรถยนต์ ผ่อนบ้าน คุณแต่งงานกับเขาไปแล้วหากเกิดอะไรขึ้นมา คู่สมรสจะต้องรับภาระใช้หนี้แทน นี้คือสิ่งที่หลายคนไม่รู้

คู่สมรสต้องผูกพันการทำนิติกรรมต่างๆ เช่น การให้กู้ยืมเงิน การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องได้รับความยินยอมทั้งสองฝ่าย หนี้สินที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก่อขึ้น รวมถึงหนี้ที่เกี่ยวข้องกันของครอบครัวในที่นี้รวมถึงหนี้ที่เกิดจากการซื้อขายทรัพย์ หนี้ที่เกิดจาการทำธุกิจการงานร่วมกันของคู่สมรส ถ้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้สามารถถเรียกทรัพย์ของคนใดมาใช้หนี้อีกคนหนึ่งได้

อย่าคิดว่าถ้าคุณผูกคอตาย ยิงตัวตาย แล้วทุกอย่างจะจบนะ... ภรรยา และลูกๆของคุณจะโดน ธนาคาร เจ้าหนี้ ใช้สิทธิบังคับให้ชดใช้ค่าเสียหายได้ โดยหักจากเงินประกันชีวิต การจบชีวิตมันง่าย แต่การดำรงอยู่มันยาก และมันท้าทายตรงที่วิธีการ หรือเทคนิคอะไรที่เราจะแก้ปัญหาแล้วอยู่กับมันได้ คุณดูอดีตมาเพียตลาดนัดจตุจักร เจ้าของคอนโดที่พัทยา "เม้ง จตุจักร" นอกจากเป็นหนี้มหาศาลถูกตามล่าเอาชีวิตอีก ไปอ่านคำพยานชีวิตของเขาได้ ขอโทษทีคุณนะกี่ล้าน?คร้าบ... ส่วนเขานั้นหรือเป็นหนี้สูงถึง600ล้านแล้วปลดหนี้ได้จริงๆ

ต้องรู้จักสินสมรสคืออะไร

ถ้าเราใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจะมีเรื่องสินทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้อง มันมี2อย่างคือ “สินส่วนตัว” และ “สินสมรส” สินส่วนตัวก็เป็นของคุณได้มาก่อนแต่งงาน จะมรดก เงินฝากในรูปแบบต่างๆ เครื่องมือใช้สอยทำมาหากิน รวมถึงของหมั้นซึ่งจะถือว่าเป็นสินส่วนตัวของฝ่ายหญิง

ส่วนสินสมรส คือทรัพย์สินของคู่สามีภรรยาที่ได้รับความยินยอมพร้อมกันมีอยู่3แบบ

• ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างอยู่กินสมรสกันเช่น สิ่งที่สร้างมาด้วยกัน บ้าน ที่ดิน บริษัท เงินรางวัลอะไรที่เกิดดอกออกผลงอกเงยหลังจากแต่งงานอยู่กินกัน

• อีกทรัพย์สินหนึ่งคือสินส่วนตัวของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ออกดอกผลโบนัสเพิ่มพูนขึ้นมา

• และสุดท้ายทรัพย์สินที่มาจากพินัยกรรม ของคนใดคนหนึ่งแต่ระบุว่าเป็นสินสมรส(ไม่แน่ใจว่าอธิบายถูกต้องหรือไม่ต้องสอบถามนักกฎหมาย)

หากทรัพย์สินอันไหนที่สงสัยว่าเป็นสินส่วนตัว หรือ สินสมรส กฎหมายได้กำหนดไว้แล้ว “ให้สันนิฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส” ฉะนั้นก่อนจดทะเบียนสร้างครอบครัวกับใครต้องเข้าใจก่อน  เมื่อคุณจดทะเบียนมันจะมีผลทันทีต่อคู่สมรสและบุตร คุณควรรู้ไว้พอเป็นพื้นฐานดังนี้

นี้คือสิ่งที่คุณควรรู้มากกว่าตัวเลขสมบัติของคู่สมรส

• จดทะเบียนแล้ว ฝ่ายหญิงจะเลือกใช่นาง หรือ นางสาว ก็ได้และจะใช่นามสกุลเดิมหรือนามสกุลสามีก็ได้

• ถ้าคุณจดทะเบียนบุตรที่เกิดมาถือเป็นบุตรของทั้งคู่ตามกฎหมาย

• ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียชีวิต คู่สมรสและบุตรถือว่ามีสิทธิชอบธรรมในการรับมรดกของผู้ที่เสียชีวิต

• ทรัพย์สินที่ทั้งคู่หามาระหว่างอยู่กินสมรสด้วยกันถือว่าเป็นสินสมรส

ช่วง50ปีที่ผ่านมา ชีวิตสมรสเปลี่ยนไปมาก

หลายคนหย่าร้างก็เพราะการเงินที่ไม่ลงตัว เราทุกคนอยากได้ตามมาตรฐานอย่างคนรุ่นปู่ย่า หรือพ่อแม่(ถ้าไม่แยกทางกัน) ซึ่งจะให้ได้มาตฐานแบบนั้นยากมากๆในยุคนี้ เอาแค่คุณเดินห้างมันมีของให้น่าซื้อ น่ากิน น่าใช้ น่าเข้าไปใช้บริการมากๆ อยากได้เหลือเกิน อยู่ที่บ้านเปิดTVก็เจอภาพอาหาร ร้านค้า Holidayแสนหวาน คูปองส่วนลดแข่งกระหน่ำด้วยข้อเสนอลด50% ของรายการท่องเที่ยวพักผ่อนจากงานอันเคร่งเครียด แถมวันดีคืนดีบริการเหล่านี้มันยังตามไปขายในมือถือเสียอีก เราทุกคนแทบจะอดใจไม่ไหว

ถ้าคุณดูชีวิตคริสเตียนอเมริกัน เขาจะมีการวางแผนชีวิตว่ามีลูกกี่คน ให้การศึกษาอย่างไร และเมื่อลูกอายุ18ต้องไล่ให้เขาออกไปหางานทำ ยืนด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้ ส่วนเรา2คนผัวเมียก็กลับมาใช้ชีวิตสองต่อสองหลังจากที่เหนื่อยกับการเลี้ยงดูลูก ชีวิตของฝรั่งจึงมีความสุขทั้งหน้าตาสุขภาพ ไม่ต้องมาเลี้ยงหลานที่ลูกเอามาฝากทิ้ง ไม่ต้องกังวลส่งลูกเรียนจนหมดเนื้อหมดตัว หวังให้ลูกเป็นเจ้าคนนายคนเลี้ยงดูเราเพื่อแทนบุญคุณค่าน้ำนม

ที่จริงแล้วคนแก่ฝรั่งนั้นเขาแข้งแข็งมาก จะเหงาเมื่อคนรักอีกคนตายจากไปเท่านั้น ฝรั่งสูงวัยลูกๆจะมารับกลับไปดูแล สังคมฝรั่งทิ้งพ่อแม่ไว้กับสถานเลี้ยงดูคนชรา เพราะต้องทำมาหากินจนไม่มีเวลาดูแล ยิ่งพ่อแม่เป็นอัลไซเมอร์ยิ่งให้อยู่บ้านไม่ได้อันตราย ต้องพาไปอยู่โรงแรม โรงพยาบาล หรือบ้านพักคนชรา นอกจากมีคนดูแล ซักผ้า ตรวจสุขภาพ มันคุมค่าใช้จ่ายได้ ใครสูงวัยก็เงินเก็บเกษียณก็ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ถ้าคุณขับรถไปในชนบทฝรั่งจริงนั้น ครอบครัวของเขาจะรับผิดชอบดูแลพ่อแม่ ที่ผมพูดมาคือให้ดูวัฒนธรรมบางอย่างที่เราเอาของเขามาดัดแปลงได้

ผมเข้าใจดีว่าคนไทยหลายคนลึกๆเขาไม่อยากทิ้งพ่อแม่ที่แก่เฒ่าหรอก แต่พ่อแม่บางคนปากมากปากเสียจริงๆ ทำกับลูกไว้เยอะ ยิ่งTVไทยชอบนำเสนอภาพลูกเลี้ยงทรพี พ่อเลี้ยงข่มขืนลูก รายการที่ชอบเอาครอบครัวอนาถาสุดเวทนาที่เด็กหนุ่มสาวอายุ13-15ต้องเรียนหนังสือ ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่อัมพาตพิกลพิการบิดเบี้ยว ความจริงแล้วเราสิ..คือคนที่กำลังจะต้องไปจากโลกนี้ ปล่อยให้เด็กเขาเป็นอิสระดีกว่า เราต้องดูแลตัวเอง ถ้าลูกเห็นต้นแบบพ่อแม่ที่ดีมีความรับผิดชอบตัวเองสูง โตไปลุกก็มีงานทำที่ดีต่อไปลูกมีครอบครัวที่ดีถึงแม้ยากจนถ้าเขามีเงินพอ

ลูกสามารถส่งพ่อแม่พิการอมโรคไปอยู่กับสถานเลี้ยงคนชราของรัฐฯ ของเอกชนดีๆได้ หรือคริสตจักรบางแห่งเขาก็มีCare Houseทั้งเด็ก และคนสูงอายุ มีหมู่บ้านใหบริการเลี้ยงดู อาหาร สุขภาพ แถมมีเพื่อนมีสังคมคนสูงอายุ ไปเที่ยวด้วยกันโดยที่คุณต้องออกค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน

หรือถ้าคุณไม่มีเงินพอก็ส่งท่านไปสถานสงเคราะห์ แล้วพ่อแม่นิสัยดีๆ ไม่ปากมาก สาปแช่งด่าลูก อารมณ์เสียเพราะปัญหาชีวิตคู่และเศรษฐกิจ มีถมไปพ่อแม่ที่ปรับปรุงตัวเองสำนึกได้ว่าตนเองแก่แล้ว ข่มขู่กดดันใครไม่ได้ใกล้จะตายก็เป็นคนดีกับเขาเสียที ลูกก็จะรับมาอยู่กับครอบครัว แต่ประเทศนี้ยังอยู่ในเขาพระสุเมรุจึงมีแนวคิดที่ว่าบุญคุณต้องทดแทน ลูกชั่วเท่านั้นที่ทำกับพ่อแม่แบบนี้ การขาดความเข้าใจแบบนี้้ทำให้ประเทศสูญเสียกำลัง แรงงาน อนาคตของชาติ ประเทศไทยไม่ยอมรับสิ่งดีๆ(ด้านดี)ของบางสังคมมาปรับใช้กับตัวเอง ไทยของเราจะแย่นะ

ขอปิดท้ายไว้หน่อนว่า ความยากจน ทุกขเวทนา และโรคร้ายเรื้อรัง ล้วนเกิดมาจากบาป มนุษย์ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตายร่วมทุกข์สุขชดใช้เวรกรรมด้วยกันทั้งนั้น คุณทำอะไรมาก่อนถึงได้กลายเป็นแบบนี้ นั้นคุณต้องหาต้นต่อให้เจอ

อายุ40-50ปีขึ้นไป ยังพอมีหวังจะเริ่มต้น...ลงทุนได้อีกไม่้

หลายคนในวัย40-50ปีก็แล้ว ยังเก็บออมไม่ไแต่เราออกแบบมันได้ คุณไร้ทิศทางในชีวิต มีแฟนก็เลิกราหย่าร้างซ้ำซาก พระเจ้าได้มอบพระพร ของประทาน Giftความสามารถมาให้คุณมานานแล้ว ที่คุณไม่พบสิ่งดีๆ หรือคุณค้นพบตัวเองไม่เจอ เพราะบาปของเราที่ตัดขาดกับพระคุณพระเจ้า ถ้วยหรือแก้วน้ำที่โสโครกสกปรก ไม่มีใครอยากเติมน้ำสะอาดใส่ลงไปดื่มกินหรอก คุณสามารถดาวโหลดเอกสารHow to get rid from poor วิธีแก้จน และเอกสารชุดอื่นๆ รวมถึงคลิปพระเจ้ากับความสำเร็จ เพื่อช่วยคุณค้นหาตัวเอง หรือไปที่หน้าแนะนำหนังสือก็ได้

เมื่อคุณเชื่อมต่อกับพระเจ้าผู้ที่สร้างคนมา คุณจะฟังเสียงพระองค์ชัดเจน หูตาฝาฟางก็จะสว่างมองโลกมุมใหม่ มีความรักและมีความหวัง โลกนี้เขาบอกแล้วว่ามีอยู่3สิ่งเท่านั้น Faith Hope & Love ความเชื่อ ความหวัง และความรัก เมื่อคุณเชื่อพระเจ้าคุณก็จะเชื่อในตัวเองถึงความหวังใหม่ และจะรัก โลกใบนี้จะกลายเป็นVersionใหม่หมดเลย แล้วทีนี้คุณพอจะคิดได้ว่า อะไรทำให้คุณผิดพลาดมาจนถึงอายุปูนนี้ แต่ข่าวดีคือ...พระเจ้าไม่เคยมาสาย

ผมขอยก6 Stepsของการลงทุนให้คุณ จากสมุดพกเศรษฐีของ กลต การตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งคุณสามารถขอมาฟรีๆก็ได ้หรือไปหาเอกสารเหล่านี้ ตามงานMoney Expore ที่กลต.เขาจัดตามภูมิภาคต่างๆ กลต.พยายามจะเผยแพร่ข้อมูลการลงทุนให้ประชาชนอยู่แล้ว ถ้าคุณยังดูละครห่วยๆ พิธีกรเล่าข่าอาชญากรรม ช่องการเมืองที่ด่าอีกฝ่ายที่ตรงข้าม สังคมออนไลน์ถ้าไม่ถูกข่มขืน วัยรุ่นฆ่ากันเองจนตาย ไม่ก็ภาพลามกตัดต่อด่าคนอื่น คุณยังยึดเศรษฐกิจพอเพียงผิดๆถูกๆ เอาแค่ข้าวสารกรอกหม้อ ใส่ชุดหม้อฮ่อมแปรงฟันด้วยไม้ข่อย ด่าทุนนิยมแบบสุดโต่งไม่รู้จักเดินสายกลาง ต่อให้เทวดาก็ช่วยคุณไม่ได้ ความรวยความมั่งคั่งมอบให้กับคนที่แสวงหาเท่านั้น

ถ้าคุณเป็นเกษตรผมจะดัดแปลง6ขั้นตอนการลงทุนนี้ให้ดู

1) รู้จักตนเอง และขจัดความกลัว ถ้าคุณเป็นชาวนามีความรู้เรื่องวัว และควาย ก็ต้องรู้เรื่องนี้ให้มันจริงจัง รู้จักทางหนีทีไร่ มีแผนสำรองกรณีฉุกเฉินสินค้าเกษตรตกต่ำ และต้องไม่กลัวผีป่า เจ้าที่เจ้าพ่อเจ้าแม่ จะปลูกจะทำนาเลี้ยงสัตว์ทั้งทีต้องขอขมากราบไหว้ฟ้าฝนเชิญหมอผีทำพิีธี คุณก็จนตกอยู่ในความหวาดกลัวกับผี-ประเพณีแบบนั้นไปตลอดชีวิต ถ้าคุณถนัดแต่งตัวให้ดูดีทั้งชีวิตมีแต่ใส่ม่อฮ่อมหมวกฝาง ไม่คิดจะใส่สูทหรือนุ่งยีนต์ ไม่กล้าไปฟังงานสัมนา ไม่ไปรู้จักสังคมอื่น คุณก็จะอยู่ในเขาพระสุเมรวนเวียนแบบนั้นไม่มีวันออกไปสังคมอื่นได้

2) รู้จักความเสี่ยง การทำนาเป็นสินค้าเกษตรที่มีความต้องการสูงที่เรียกว่าCommodity คุณต้องทำประกันสินค้าเกษตร มีราคาพื้นฐานหากฉุกเฉินเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำนาแล้วก็เลี้ยงวัว เลี้ยงควายหารายได้เสริม คุณไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเลย ผมสงสัยจัง..ใครมันสอนคุณว่าเป็นเกษตกรลำบาก คุณทำงานไม่แค่กี่ช.มเอง มันต้องใช้เทคนิค นวัฒกรรมเท่านั้น เดี๋ยวนี้เมืองนอกเขาปลูกข้าวเลี้ยงวัวในทะเลทรายได้แล้ว แถมเกษตกรสร้างแบรนด์ตราสินค้าของตัวเอง

3) รู้จักเครื่องมือวิเคราะห์ ในตลาดหุ้นยังมีนักวิเคราะห์ ตลาดเกษตรก็ต้องมีนักวิชาการ นายธนาคาร รายงานแผนการฟื้นฟูดิน แผนการลงทุนของภาครัฐ ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก ในตลาดไทย หากคุณมั่วแต่ไปฟังคนพอเพียงอย่าง โจน จันไดคุณจะได้แค่พอเพียงเสื้อ7ตัวกับบ้านดินแล้วทำโฮมเสตย์ให้ฝรั่งอยู่ เขาเป็นเขาส่วนคุณต้องเป็นตัวคุณเองเท่านั้น จะเป็นแบบสไตล์เดียวกับเขาไม่ได้หรอก

4) หาแหล่งศึกษาความรู้เพิ่มเติม อันนี้อย่าไปเอาของคนไทย เพราะเขาจะบอกคุณไม่หมด คุณจำไว้เลยว่า..คนไทยเห็นใครดีกว่าตัวเองไม่ได้ แม้ว่าจะต่างศาสนาจะเป็นคริสต์ อิสลาม ซิกซ์ นิสัยคนไทยเหมือนกันหมด คุณควรศึกษาหลายๆที่ เดี๋ยวนี้มีคลิปดีๆเยอะ ผมเคยเห็นการเพาะเลี้ยงปลาในทะเลทราย เขายกแท๊งน้ำไปก่อสร้างขนาดสนามฟุตบอล3-4สนาม โดยโปรเจคขนาดใหญ่แบบนี้ใช้ทั้งระบบด้วยการกดปุ่มอย่างเดียว เดี๋ยวนี้เกษตรไม่ลำบากแล้ว ทำงานแค่ให้อาหาร ดูแลความสะอาดเชื้อโรค นอกนั้นก็นอนพักสะบาย แถมผลผลิตได้เยอะแยะเหลือเฟือ

5) วางแผนการลงทุน เช่นคุณมีรายได้รายวันจากการเก็บเห็ดที่คุณเพาะจากฟางข้าว คุณมีรายได้รายสัปดาห์จากการขายของออนไลน์สินค้าOTOP หรือจะสินค้าMLM จากนั้นทุกเดือนคุณอาจจะปล่อยวัวหรือควายที่เลี้ยงเล่นๆเป็นรายได้ประจำเดือนของคุณ หรือถ้าจริงจังก็เพาะ"วัวชน"ขายกันตัวเป็นแสน ส่วนรายได้รายปีคือการปลูกข้าว ทั้งหมดอาจจะกู้เงินจาก ธกส. ต้องบริหารเงินให้เป็น อภิมหาเศรษฐีอย่างCPก็กู้เงินทั้งนั้น อ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเยอะๆในนั้นจะช่วยคุณได้มากเลย

6) ต้องติดตามพอร์ทการลงทุนของตนเอง วางแผนลงทุนระยะสั้นจะไ้ด้อะไรมา วางแผนระยะยาวจะได้ใช้ตอนเกษียณ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งนั้น อย่าไปลงทุนทุ่มสุดตัวกับสิ่งที่เราไม่ถนัด หากอยากขยายกิจการอย่างทำHome Stay โฮมเสตย์ควรหาช่องทางให้เหมาะที่ตนเองชอบ แค่คุณเป็นชาวนา ไปซื้อเต้นท์299ในห้างมาไว้ที่บ้านคิดวันละ100บาทให้ฝรั่งเช่าปล่อยให้แก้ผ้าอาบน้ำข้างบ่อน้ำติดคอกวัว ฝรั่งเขาก็ฟิลล์ธรรมชาติแล้ว หรือขายที่พักให้ชมรมขี่จักยาน หรือนักศึกษาเช่าก็ได้ ภาษีหรือก็ไม่ต้องเสีย ของแบบนี้ต้องศึกษาเอาเองเพราะในคริสตจักร โรงเรียน และเกษตรกรพอเพียงคนดังอย่างโจน จันได, พระพยอม แห่งวัดสวนแก้ว,จ่าวิชัย เจ้าของสถิติปลูกต้นไม้ พวกเขาไม่ได้สอนนะ...คุณต้องแสวงหาเอาความสำเร็จในแบบของคุณเอง

ชีวิตของคุณมีค่ามากๆ อยากได้ของดี..ก็ต้องออกแบบมัน

คริสตจักรในต่างประเทศมีการจัดคอร์ทอบรมก่อนแต่งงาน ในเมืองไทยก็มีเยอะมันทำให้คน2คนก่อนสาบานตัวสวมแหวน กล่าวปฎิญาณ I do ซึ่งแปลว่าจะยอมรับเขาคนนั้น คุณต้องใช้ชีวิตไปด้วยกันจนกว่าตายจากไป ผู้ทำพิธีก็อยากให้พิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้มันขลังจริงๆ เพื่อเป็นพร นอกจากครอบครัวมีความสุข หน่วยเล็กๆแห่งนี้ก็จะผลิตคนออกมาให้สังคม และสังคมก็จะมีความสุขไปทั่วหน้า ผมเชื่อว่าคนที่ได้สิ่งดีๆแบบนี้มีเยอะ แต่คนบางคนที่ถูกคนในคริสตจักรแย่งชิงคู่รัก และถูกพี่เลี้ยง ผู้นำศาสนา ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวทำลายชีวิตคู่รักก็มี คริสเตียนไม่ได้ดีเลิศหรอก อิจฉา ริษยา เป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนๆกันกับคนศาสนาอื่น แต่คริสเตียนสร้างปัญหาให้สังคมน้อยกว่าคนอื่นเท่านั้น

จากเรื่องคอร์ทอบรมก่อนแต่งงานขั้นตอนต่อไปก็พิธีแต่งงาน คู่รักจะต้องเตรียมเก็บเงินเพื่อการจัดพิธีแต่งงานก่อนหน้านั้นสัก1ปี ต้องคุยกันว่าใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายหรือมาแชร์กันอย่างไร? จะแต่งเดือนพฤศจิกาแล้วไปซื้อเพ็กเก็ตวันวาเลนไทน์ในเดือนกุมภาที่เขาจัดรายการกัน คุณเลือกจะวางแผนฮันนีมูนที่ต่างประเทศหรือในประเทศดี? บางคู่ก็ไม่จัดพิธีแต่งงานไหว้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเสร็จ ก็ออกทั่วรอบโลกด้วยการปั่นจักรยานแล้วกลับเมืองไทย มาทำงานสร้างบ้านเลี้ยงลูก  เมื่อคุณทั้งสองทิ้งชีวิตโสดไปแล้วการปรับตัวเข้าหากัน และการมีสมาชิกใหม่ชีวิตของคุณก็จะเป็นอีกรูปแบบสิ้นเชิง

สร้างบ้านยังต้องมีการออกแบบ สร้างประเทศยังต้องวางแผนเศรษฐกิจ วางบุคคลใดไปดำรงตำแหน่งให้เหมาะกับการพัฒนาประเทศในทุกๆด้าน แล้วการสร้างครอบครัวก็ต้องออกแบบยิ่งกว่านั้นอีก