พระเจ้าคุยเรื่องSexyที่นี้เท่านั้น

Date อย่างไรจะเจอคนที่..ใช่

กฏการออกเดท

หากคุณคิดออกเดท หรือชวนกันไปเที่ยว เรื่องที่ทั้งคู่ห้ามพูดคุยเช่นศาสนา หรือการเมือง ที่ต้องขอก็เพราะมันทำให้คุณมีความสุภาพ และจะน่ารักมาก พระคัมภีร์ได้บอกว่าจงไวในการฟัง จงช้าในการพูด และจงช้าในการโกรธ ยากอบ1:20"ก็คือฟังมากกว่าพูด” และทุกคำพูดล้วนมีผลต่อชีวิตของเรา แต่..ก็ไม่ใช่ห้ามถ้าเรานำเสนอความจริง ตัวตนของเราจริงๆ ที่อยากจะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องการ การพูดต้องอยู่ในทัศนคติที่บวก จริงใจ มาจากชีวิตและความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ ที่ต้องวางกฎเหล่านี้เพราะบรรดากูรูผู้เชี่ยวชาญเรื่องการออกเดท ทุกคนเห็นพ้องด้วยกันว่ามันได้ผล เราึถึงออกแบบมาเพื่อให้คุณมีเดทที่สนุก

 

การเดทควรที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เขา-เธอทำ วันแรกๆควรหลีกเลี่ยงเรื่องทำมาหาเลี้ยงชีพอะไร บอกตรงๆตำแหน่ง หน้าที่การงานนั้นมันตัวการเลยละ มันแบ่งชนชั้น ความรู้ สถานะของคุณทั้งคู่ เช่นคุณอาจจะมีอาชีพตำรวจ แต่ไม่ใช่ว่ายศตำแหน่งของตำรวจจะให้ความสุขใจ ไม่เหมือนกับอาชีพปศุสัตว์คนเลี้ยงวัว เขาอาจจะมีความสุขอีกแบบ หรืออาจะทำเงินได้มากมายกว่าตำรวจก็ได้ ส่วนใครที่อยากควงตำรวจยศตำแหน่งดีๆ แต่ลึกๆคู่ควงเขาอยากเป็นตำรวจสายHardcordทำงานด้านสายลับUndercover อาจจะชอบงานด้านมืดมากกว่างานแก่งแย่งตำแหน่ง จงอย่าไปคาดหวัง อย่าไปให้ความสนใจเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่ก่อน ไม่งั้นหมดสนุก

เมื่อคุณพบเขาหรือเธอ ถามสิ่งที่เกี่ยวกับสิ่งที่เขาเล่นกีฬา ขับรถไปเที่ยวที่ไหน ฟัง หรือเล่นดนตรี ของสะสม ในวันอาทิตย์ทำอะไรบ้าง เมื่อคุณอยู่ในความสัมพันธ์ที่มั่นคงระดับหนึ่ง  ไม่ต้องกลัวที่จะเข้าไปเขย่าเรื่องส่วนตัวได้  หากอยากให้ความสัมพันธ์สนุกสำหรับคุณทั้งสอง ก็ลองเปิดให้ประสบการณ์ใหม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาสนใจ หรือเข้ามาลองดูในฝั่งของเรา

ไปออกเดทคุณต้องพร้อม ไม่ใช่สกมก ซึมเศร้า อาการประสาท เลือดลมแปรปรวน

เวลาออกเดทเราต้องพร้อม ถ้าเราพร้อมอะไรๆก็จะดูดีไปหมด โลกจะตกหลุมรักคุณเช่นกัน ไม่เชื่อก็ลองดูในตอนที่คุณมีความสุข คุณไม่สังเกตหรือว่าใครๆก็มองคุณ แล้วเวลามาเที่ยว หรือไปออกเดททั้งทีก็สนุกกันเหมือนเด็ก18อันนี้สำคัญมากๆเพราะวัย15-18เป็นวัยที่เราไม่คิดอะไรมาก จงกลับไปทำตัวแบบนั้นแต่ก็อย่าไร้สาระแบบเด็กวัยรุ่นเกินไปจนลืมอายุจริง ฉะนั้นฟิตร่างกายให้พร้อม สร้างเสน่ห์ให้กับตนเองว่าตัวตนจริงๆของคุณเป็นอย่างไร ไม่ใช่ศัลยกรรม กินแล้วขาวใสออร่า หล่อ ฟิต เฟริม์ อึด ทน แกร่ง เซ็กซ์แพก นมโตๆนั้นมันชั่วคราวพออายุ45ก็หล่นมากองที่พุง ห้อย หย่อนยานหมด

ที่สำคัญสิ่งที่อยู่ด้านในของคุณต่างหาก หากคุณยังเลียแผลใจไม่หายจากการอกหักคนรักเดิม ถูกทรยศ โกงความรัก ถูกฟันแล้วทิ้งไม่พอยังหลอกเอาเงินไปอีก คุณอยู่ในอาการซึมเศร้า ติดสารเสพติด ติดยาเม็ดต่างๆ สิ่งแย่ๆเหล่านี้จะส่งผลออกมาสู่ด้านนอก ในพระธรรมสุภาษิตที่ว่า ใจมนุษย์คิดยังไงตัวของเขาก็ไปทางนั้น คุณจำไว้เลยว่า โลกนี้ไม่มีใครทำผิดพลาดหรอก การลงทุนทางการเงิน ธุรกิจ คนรักที่ทำให้ผิดหวัง มีกันทุกคนทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางทำลายคุณได้เลยถ้าคุณไม่อนุญาตให้มันมีอำนาจเหนือจิตใจเสียอย่าง

จงปิดจุดอ่อนแอ หาข้อบกพร่อง แก้ไขปมด้อยของตนเองให้เร็วที่สุด หากคุณทำไม่ได้พยายามแล้ว Set Mind control ทุกเช้าท่องทุกวัน โอ้ย...นั้นมันผิด การท่องจำ พูดซ้ำซาก ใช้ความเชื่อ และพลังศรัทธาในศาสนาของคุณ ถ้าคุณเป็นคนขี้แพ้ ใจเสาะ เห็นแก่ตัว โลกส่วนตัวสูง ทำไปก็แค่นั้นเพราะผู้ที่ขุดรากถอนโค่นออกมาได้คือพระเยซูคริสเจ้า และคริสตจักรจะเป็นสนามที่คุณฝึกฝนตนเองได้ดีเลยละ

หากสอบไม่ผ่านเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า และคนอื่นๆ ไม่ไเป็นไร สอบใหม่พระเจ้าอดทนเสมอ

แรงดึงดูดทางเพศ ...ไม่ใช่การศัลยกรรม

คงไม่มีตัวอย่างคู่ไหนเท่ากับ ฟ้าชายชาร์ลกับคาเมล่า ปาร์เกอร์โป วัยรุ่นสมัยนี้คงไม่รู้จักเสียแล้ว จะบอกให้ว่าเจ้าหญิงไดน่า เธอช่างแสนสวยเลิศเลอล้ำค่าดุจเพชรคาร์เทียร์ ต่างกับคาเมล่า ปาร์เกอร์โปว์ สาวเฉิมเบอะเชยๆเงียบชอบเดินตามหลังผู้ชายเหมือนกวางตัวเมีย แต่พลอยเมืองจันทร์-ทับทิมบ่อพม่าก้สู้เพชรแท้ได้ ไอ้บ้านๆดิบๆพันธุ์พื้นเมืองคาเมล่าคนนี้ละดันไปชนะใจฟ้าชายชาร์ล หรืออาจจะมีผู้ชายอีกหลายคนชอบแนวนี้

การศัลยกรรมแก้ไขส่วนที่เราบกพร่องไม่ผิดหรอกใครๆก็อยากดูดี ถ้าคุณไม่มีหน้าอกเลยแบนแบบไข่ดาวใส่เสื้อไม่สวย สาวสวยเรียนเก่งแต่ฟันยืน คางเบี้ยวไอ้นี้ก็น่าไปศัลยกรรมอยู่หรอก ต้องแยกระหว่างศัลยกรรมเพื่อปรับปรุงทางกายภาพเพื่อคุณภาพชีวิตทางสังคม ต้องแยกเสน่ห์ออกจากความงามที่มองเห็นซึ่ง... เสน่ห์มันเกี่ยวกับแรงดึงดูดทางเพศ และเคมีต่างขั่วมาชนกัน มันเป็นอะไรที่มองไม่เห็น หลายคนperfect หล่อสวยจริงๆ แต่ไม่มีเสน่ห์เพราะนอกจากถูกกลบด้วยการรับประทานอาหารเสริม ข้างนอกสดใสแต่ข้างในสุขภาพแย่ คุณไปดูคนดังๆในประเทศนี้สิ พวกเขาดูดีจริงๆแต่พอล้มตัวไม่สะบายอาการเข้าขั้นโคม่า นั้นระบบภายในเน่าหรือตายเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสูญเสียตัวตนของตัวเองจริงๆ ไปนานแล้ว

แล้วที่สำคัญไม่เคยคิดเป็น ไม่เคยถูกสอนว่า"ตนเองมีดีตรงไหน" นี้ต้องเริ่มจากครอบครัว โรงเรียน ชี้นำให้ค้นหาตัวตน หรือพรสวรรค์ หาคุณค่าของตัวเอง

เดท ไม่ใช่หาคู่แต่งงานนะจ๊ะ ถ้าไม่เข้าใจแล้วจะไปกดดันคู่เดท

ไปเดทไม่ใช่ไปหาคู่แต่งงานนะ...เวลาคุณนั่งที่ร้านกาแฟมองเห็นคนเดินผ่านไปมา น้อยคนมากที่คุณจะปิ๊งหรือถูกใจ เช่นเดียวกันไปงานปารตี้ ไปท่องเที่ยว หรือจะใช้บริการเดทออนไลน์ ถ้าผิดหวังหรือเขาคิดแค่เพื่อน..ไม่เป็นไร ก็แลกเบอร์โทรกันไว้ เก็บคนที่เราชอบแม้ไม่ใช่คนที่เราต้องการ ก็เก็บคู่เดทเอาไว้ให้เพื่อน ญาติพี่น้องก็ได้ มีถมไปชอบก็จริงแต่ไม่ใช่คู่แต่งงาน เลยจีบให้ญาติ ให้เพื่อนเสียเลย

ที่สำคัญอย่าสื่อสารผิดๆ ต้องระวังมากๆ เช่นเราปิ้งคนนี้แล้วเกิดคนนั้นชอบคุย ชอบสนิท บางครั้งแต่งตัวล่อแหลมsexy อย่าไปคิดเหมาเข้าข้างตัวเองว่าเขาเปิดทาง เพราะเขาอาจจะต้องการเพื่อนมากกว่าเป็นแฟนกัน อาจจะไว้ใจคุณว่าปลอดภัย เธอคนนี้นิสัยดีชอบห่วงใยนั้นไม่ได้หมายความว่าเธอจะชอบคุณ หากเกิดสนิทกันบ่อยๆ เมื่อก่อนชวนไปเที่ยวกันหลายๆคนตอนหลังชวนไปกันแค่2คนทำธุระสำคัญ คุณต้องดูพัฒนาการตามกฏธรรมชาติเช่นเมื่อเดือนก่อนแต่งตัวธรรมดา พอชวนกันไปเที่ยว พบกันอีกทีคุณเธอเริ่มทาปากสีแดง พอกินข้าวเสร็จเธอแวะเข้าห้องน้ำกลับมาด้วยลิปสติกอีกสีหนึ่ง หรือชวนเพื่อนชายไปช่วยโน้นไปนี้จากเมื่อก่อนหนุ่มสกมก พอหลังมันเริ่มใช้น้ำหอมGucci ตัดผมเผาเสียหล่อ นั้นคุณคงรู้แล้วว่าเขาคิดอะไรกับเรา

สัญญาณอะไรบ้าง ที่เปิดให้คุณรุกได้

เวลาคุณไปซื้อโปรแกรมทัวร์ หรือใช้บริการเดทออนไลน์ หรือเพื่อนฝูงแนะนำในงานParty แล้วพบคนที่น่าสนใจ เมื่อคุณชวนออกเดทแล้วอยากสร้างสัมพันธ์ขั้นต่อไป หากไม่อยากโดนปฎิเสธจงอย่าทำตัวเหล่านี้

ผ่อนคลายและปล่อยให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ให้แน่ใจว่าคุณทำและพูดสิ่งที่คุณแสดงออกว่าใส่ใจ รัก และห่วงใย เป็นห่วงเขาหรือเธอจริงๆ ่สนุกและมีอารมณ์ขันในความสัมพันธ์ของคุณ เชื่อไม่หลายคนจากการเริ่มต้นมาจากการที่ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ ภายหลังกลับกลายมาแต่งงานกัน คุณจะได้ยินผู้ชายหรือฝ่ายหญิงพูดว่า..เขาทำให้ฉันรู้จักผ่อนคลาย และมีความสุขมากเมื่ออยู่กับคนนี้


นับตั้งแต่ปี 1960 มารยาทการเดท ได้เปลี่ยนไป

โลกเปลี่ยน วัฒนธรรมการเดทก็เปลี่ยน หลายคนไม่เข้าใจมารยาทการเดทยุคใหม่ แน่ละ..เมื่อก่อนผู้ชายต้องเป็นคนเริ่มก่อน รุกก่อน จีบก่อน และเป็นคนที่เริ่มเคลื่อนไหวนำขั้นตอนต่อไป แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ฝ่ายหญิงสามารถขอผู้ชายเดทได้ ชวนไปเที่ยวได้ ซึ่งสมัยก่อนจะพบกับผู้หญิงประเภทจับผู้ชายอะไรทำนองนี้ และสมัยนั้นทั้งชายหญิงก็จะมองแบบนั้นจริงๆ สมัยนี้พวกเธออาจจะขอแต่งานกับผู้ชายได้แล้ว

ไม่ว่าฝ่ายไหนชวนเดท ทั้งคู่จะมองหาความสัมพันธ์ขั้นต่อไป และค้นหาความรักที่จะสานต่อเสริมสร้างแกกันและกัน แม้ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายออกปากชวน หรือสามารถรุกได้ แต่การโยกย้ายความสัมพันธ์ไปสู่ขั้นต่อไป มันก็ต้องเป็นฝ่ายชายเป็นตัวนำอยู่ดี บอกตรงๆโลกนี้ยังให้ชายเป็นใหญ่อยู่นะจ๊ะ

เพราะฝ่ายชายจะต้องแสดงตัวถึงการประกอบอาชีพ, กลุ่มทางสังคม, การเงิน, การเลี้ยงดู, ความสัมพันธ์ในครอบครัว มันเป็นธรรมชาติทั้งหมดของผู้ชายมาตั้งแต่สมัยมนุษย์ถ้ำ ที่เขาต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่แสดงความเป็นชายอย่างสมบูรณ์ มันหมายถึงชีวิตรักของคุณทั้งคู่ แม้ว่าฝ่ายชายจะรู้อยู่เต็มอกว่าฝ่ายหญิงมีฐานะ ความมั่นคงทางการเงิน ทางสังคมดีกว่าเขาก็ตาม

และสุดท้ายการไปออกเดท โดยวัฒนธรรมฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้จ่ายเงิน แต่ปัจจุบันค่าครองชีพ และเศรษฐกิจโลก บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แถมอะไรๆก็แพงหมด และอาจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากออกปากชวนสาวๆไปเดท ยุคสมัยใหม่ระบบโลกกำลังจะมีรัฐบาลโลก ฝ่ายหญิงสามารถบอกเขาได้ว่าจะแชร์ หรือขอเลี้ยงมื้อนี้ ขอจ่ายค่าดูหนังรอบนี้ได้ จนถึงแชร์กับคุณเพื่อเลือกซื้อเพ๊กเก็ตทัวร์ไปเที่ยวในประเทศ หรือต่างประเทศด้วยกัน ผู้หญิงสมัยนี้ทำเงินได้มากกว่าผู้ชายเสียอีก ดูได้จากสินค้าออนไลน์..ของผู้หญิงทั้งนั้น

แล้วไม่ว่าจะฝ่ายไหน จงคิดให้ดีก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กัน เพราะสมัยนี้นอกจากเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่แล้ว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นทุกๆปี แค่จูบคุณอาจจะเสี่ยง HPV ไวัสตับB หรือเริม และถ้าไม่อยากเจอรูปตัวเองถูกมอมยา รูฟี่ ยาข่มขืน ไม่อยากเห็นตัวเองแก้ผ้าแก้ผ่อนไปโผล่ในอินเทอร์เน็ต หรือUploadขึ้นในยูทูบPorn หรือซวยที่สุดคือคู่เดทเป็นโรคจิตวิตถาร Sexซาดิส เฟติส ก็จงรักนวลสงวนตัว การถือพรมจรรย์คำสั่งของพระเจ้า นั้นก็เพื่อตัวคุณเอง

คัดบางตอนมาจาก Dating Dilemmas: Who Should Make the First Move? โดย Ashley ในบทความ eH+ Matchmaker