Emotional dependency รักหรือผูกมัด

Emotional dependency แปลจากหนังสือ รักหรือผูกมัด ของลอรี่ เรนท์เซ็ล

จิตผูกพันคืออะไร มันเกิดขึ้นต่อเมื่อมีความเชื่อที่ว่า การมีคนหนึ่งอยู่กับเราด้วยตลอดเวลา หรือ การเลี้ยงดูจากอีกฝ่ายหนึ่งจำเป็นต่อความมั่นคงปลอดภัยส่วนตัว การเลี้ยงดูนี้เกิดขึ้นได้สารพัดทุกรูปแบบ เช่น ให้ความสนอกสนใจ การรับฟัง การชมเชย ให้คำปรึกษา การชื่นชม และ ใช้เวลาร่วมกัน

แม้ว่าจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันด้านสรีระก็ตาม บาปมันเกิดขึ้นเมื่อมิตรภาพนั้นกลายเป็นผูกมัดอารมณ์ต่อกัน การผูกมัดนี้ต่างฝ่ายต่างพึงพากันและกัน จนขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้ บางรายเข้าใจไปว่า หากขาดเขาไปแล้วความเชื่อ หรือพระเจ้าจะไม่ได้อยู่ด้วยกับเขา

มาดูสัญาณ จิตผูกพันต่อกัน บางทีอาจจะเกิดขึ้นจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ สายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะรวมเอาความเข้มแข็งของอีกฝ่ายหนึ่งที่มีความต้องการสิ่งนั้น แล้วนำคนๆนั้นมาเติมลงไปในส่วนที่ขาดหาย แต่ความจริงก็คือมันเป็นความต้องการด้วยกันของทั้งคู่ ฉะนั้นทั้งคู่ก็เลยเติมให้กันและกัน ซึ่งคุณจะพบได้บ่อยๆ เพราะฝ่ายที่ดูเหมือนว่าจะอ่อนแอ จะเป็นฝ่ายควบคุมฝ่ายที่เข้มแข็งในความสัมพันธ์นั้น

จิตผูกพันธ์ ต่อให้คุณไปมีครอบครัว ไปมีคนรักใหม่ก็ไม่หายไปจากชีวิต

ส่วนใหญ่ตนเองมักคิดว่า ตัวเขาจะมีความมั่นคงต่อเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับอีกคนหนึ่ง ส่วนใหญ่คนที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ มีหลายสาเหตุ เช่นว่าความเจ็บปวดในอดีต ประสพการณ์ชีวิตอันล้มเหลว ขาดความเข้าใจ ขาดความอบอุ่น บาดแผลจิตใจ หรือขาดการดูแลเอาใจใส่ การจับคู่กับคนที่สนใจเรา ประหนึ่งว่าคนๆนั้นพร้อมสรรพทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งปกป้อง หรือให้ความมั่นใจ สร้างความเข้มแข็งให้อีกฝ่ายหนึ่งได้

เหตุที่เกิดจิตผูกพันนี้ มันไม่มีข้อยกเว้นแม้ว่า คนๆนั้นจะมีครอบครัว สามีหรือภรรยาอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องการที่พักพิงทางอารมณ์ และมิตรภาพอันดีงามกับคนๆนั้น ทั้งๆที่ทั้งสองคนอาจจะมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง รวมถึงการที่พวกเขาหมั่นอธิษฐานด้วยกัน ความจริงแล้วพวกเขาทำสิ่งไม่ถูกต้อง นั้นคือการหลงใหล นับถือ หรือรักกับเพศเดียวกันแม้ว่าจะไม่มีเพศสัมพันธ์ หรือไม่มีชู้สาวด้วยกัน

สัญญาณของจิตผูกพันธ์มีดังนี้

•รู้สึกอิจฉาบ่อย หึงหวง และไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ มองว่าผู้อื่นเป็นภัยคุกคามต่อความสัมพันธ์
•ชอบใช้เวลากับเพื่อนคนนี้ตามลำพัง มักหัวเสียอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิด เมื่อไม่ได้ดังใจ
•เริ่มโกรธอย่างไรเหตุผล อารมณ์เศร้า เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งปลีกตัว หรือเริ่มออกห่าง
•ไม่แคร์ หรือ สนใจกับมิตรภาพกับเพื่อนคนอื่นเท่าไร
•รู้สึกรักใคร่ชู้สาว หรือความรู้สึกทางเพศนำไปสู่จิตนาการเพ้อฝันเกี่ยวกับคนๆนั้น
•หมกหมุ่นอยู่กับรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ นิสัย ปัญหา และให้ความสนใจกับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษ
•ไม่เต็มใจ สนใจที่จะวางแผน หรือทำงานต่อไปหากว่าไม่มีฝ่ายหนึ่งร่วมอยู่ด้วย
•ไม่เห็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง
•ตกเป็นทาสทางอารมณ์กับอีกฝ่าย
•แสดงความชอบพอรักใครเกินขอบเขต เช่นแสดงอาการเป็นห่วง หรือ แสดงอาการออกมา
•เมื่อเอ่ยถึงอีกฝ่ายหนึ่งในการสนทนาบ่อยๆ รู้สึกจะพูดแทนอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างเต็มปาก
•แสดงความสนิทสนมคุ้นเคย กับเพื่อนคนนี้ออกนอกหน้า ทำให้คนภายนอกรู้สึกอึดอัด หรืออายที่จะอยู่ด้วยกันกับสองคนนี้

พระเจ้าอยากให้เรารักพระองค์สุดๆ สั่งหนักหนาว่า..อย่าไปรักคนอื่นมากกว่าตนเอง

คนทั้งคู่มักมีความคิดข้างด้วยกันที่ว่า เห็นใจ และ เข้าใจในด้านจิตใจของอีกฝ่าย แต่ความจริงแล้วพระเจ้า ต้องการให้เรารักพระองค์เพียงผู้เดียวรักด้วยสุดจิตสุดใจสุดความคิด แต่คนที่มีจิตผูกพันมันคือการยึดที่ตัวบุคคลคนๆ นั้นมากกว่าตนเอง และ พระเจ้า

เชื่อไม่..บางรายยอมตกเป็นทาสทางอารมณ์กับอีกฝ่ายหนึ่งจนยากที่จะแยกออกจากกัน ยิ่งใครที่เป็นคริสเตียนจะมีความคิดผิดๆที่ว่า แยกจากอีกฝ่ายเป็นการทำร้ายจิตใจ หรือเป็นความบาป ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด และ ไม่ถูกต้อง ความคิดนี้น่าจะเป็นความคิดของคู่สมรสมากกว่า

และถ้าหากมันเกิดขึ้นกับคุณ เข้าไปปรึกษาพันธกิจสายธาร เพราะที่นั้นเขาสามารถค้นหาต้นตอของความคิด หรือ บาดแผล ในอดีตที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ ซึ่งมันจะนำไปสู่การรักร่วมเพศ แม้ว่าจะไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ตาม